ทุกวันนี้โลกไม่มีแบ่งแยก ไม่ว่าจะเป็นเพศ เชื้อชาติ การศึกษา ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน รวมถึงผู้พิการก็ไม่ใช่ผู้ที่ไร้ความสามารถอีกต่อไป HappyLife ฉบับนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเพจชื่อดัง “ผมชื่อลูเต้อร์” พร้อมพูดคุยกับ “คุณทราย - คีริน เตชะวงศ์ธรรม” ผู้พิการทางสายตาคนไทยคนเดียวที่ใช้สุนัขนำทาง ผู้เป็นแรงบันดาลใจ และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเข้าใจกันและกันมากขึ้น แต่จะเข้าใจมากขึ้นยังไง ลองอ่านกันได้เลย

 

ลูเต้อร์คือใคร?

ลูเต้อร์ คือสุนัขนำทางของทรายเองค่ะ ทรายสูญเสียการมองเห็นตอนอายุ 13 ปี เพราะอาการเนื้องอกในสมอง หลังจากที่สูญเสียการมองเห็น ทรายก็ไปเข้าโรงเรียนที่ฝึกอบรมให้กับผู้พิการทางสายตา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้รู้ว่าเราต้องใช้ชีวิตใช้ไม้เท้ายังไง และต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง รวมทั้งเรียนอักษรเบรลล์

ทีแรกก็ไม่ชินค่ะ แต่ถ้าถามว่าจากที่เคยตาปกติมาก่อนมันยากไหม ทรายว่ามันก็ไม่ได้ยากนะคะ เหมือนเราเรียนว่ายนํ้า ฝึกขับรถนั่นแหละค่ะ ครั้งแรกอาจจะยังไม่ชิน แต่พอเราทำได้และยอมรับตัวเองแล้ว ก็ไม่ได้ยากอะไรค่ะ

 

“ลูเต้อร์” เพื่อนนำทางผู้เป็นดวงตาในความมืด

ทรายเรียนต่อด้านจิตวิทยาที่ Hendrix College ที่สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นทรายมีความเครียดสูงและเป็นโรคซึมเศร้าด้วย และที่ต่างประเทศจะมีการใช้สัตว์บำบัด เลยคิดว่าถ้าเรามีสุนัขนำทางก็น่าจะดี เพราะได้ทั้งนำทางและยังเป็นเพื่อนแก้เหงาเราได้ด้วย

ครั้งแรกที่จะได้เจอกับลูเต้อร์ตื่นเต้นมาก ไม่รู้จะทำตัวยังไง ไม่รู้ว่าเขาจะเข้ากับเราได้ไหม แต่ต้องบอกว่าสุนัขนำทางต้องผ่านการฝึกเพื่อเป็นสุนัขนำทางโดยเฉพาะ ทางศูนย์ฝึกจะเป็นคนเลือกสุนัขนำทางให้ โดยวิเคราะห์ให้เหมาะกับพฤติกรรมของเราค่ะ จากนั้นต้องฝึกอบรมการใช้สุนัขนำทางอีก 3 อาทิตย์ เพื่อฝึกพวกคำสั่งต่างๆ และให้เรากับสุนัขนำทางสนิทกันมากขึ้น

ลูเต้อร์เป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์อายุ 2 ขวบ เขาเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกมาแล้ว เขาจะรู้หน้าที่ของเขาดีมาก ถ้าต้องนำทางทราย เขาก็จะทำงานอย่างจริงจังไม่ค่อยเสียสมาธิ เวลาอยู่ในอาคารเขาจะไม่ถ่ายนะคะ แต่พอกลับถึงบ้านเป็นช่วงเวลาพักผ่อนเขาก็เป็นสัตว์เลี้ยง เป็นเพื่อนที่ น่ารักของทรายค่ะ

 

“ไม้เท้านำทางจะช่วยให้เราเจอสิ่งกีดขวาง แต่สุนัขนำทางจะพาเราหลบสิ่งกีดขวางค่ะ”

จริงๆ การใช้ไม้เท้านำทางและการใช้สุนัขนำทาง ก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไปนะคะ ทรายเคยลองมาแล้วทั้ง 2 แบบ ตอนที่เราใช้ไม้เท้าเราจะเหมือนเป็นคนควบคุม แต่พอใช้สุนัขนำทางเขาจะเป็นผู้นำเรา เป็นผู้ที่คอยหลบสิ่งกีดขวางให้เรา เวลาเจออะไรที่ไม่น่าไว้ใจแบบพวกแอ่งนํ้า บันได ก็จะหยุดให้เราได้ระวังก่อนเสมอเลยค่ะ

 

เพจ “ผมชื่อลูเต้อร์” เกิดขึ้นมาได้ยังไง

เพจ “ผมชื่อลูเต้อร์” เกิดจากความบังเอิญ เพราะคุณแม่ของทรายเป็นคนชอบถ่ายรูป เวลาทรายกับลูเต้อร์อยู่ด้วยกัน แล้วคนก็เห็นว่าน่ารักดีเลยลองทำเพจดู แล้วกระแสก็แรงมาก ทรายก็เลยถือโอกาสนี้ผลักดันให้คนไทยเข้าใจสุนัขนำทางและสิทธิของผู้พิการมากขึ้นด้วย ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญค่ะ

 

“สุนัขนำทางไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่แค่ต้องเพิ่มความเข้าใจให้มากขึ้น”

ทรายกลับมาประเทศไทยได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว เวลาออกไปข้างนอกถ้าเป็นตามทางเดินจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นห้างจะเริ่มมีปัญหา เพราะบางคนไม่เข้าใจว่าสุนัขนำทางคืออุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับผู้พิการ เวลาไปไหนก็ต้องติดต่อไปยังสถานที่ที่เราจะไปก่อน ว่าเรามีสุนัขนำทางนะ บางครั้งขออนุญาตได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งจริงๆ มันมีกฎหมายอยู่แล้วไม่ต้องติดต่อก่อนก็ได้

 
เจ้าของเพจ “ผมชื่อลูเต้อร์”เจ้าของเพจ “ผมชื่อลูเต้อร์”
 
เจ้าของเพจ “ผมชื่อลูเต้อร์”​​
 

“ตอนนี้เป็นคนไทยคนเดียวที่ใช้สุนัขนำทาง”

ตอนนี้ทรายเป็นคนไทยคนเดียว แต่ไม่ใช่คนแรกนะคะ ทรายเป็นคนที่ 2 ต่อจากศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ (ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ) แต่ปัจจุบันทรายน่าจะเป็นคนเดียวในประเทศไทยที่ใช้สุนัขนำทางค่ะ

 

“ผู้พิการก็เหมือนคนทั่วไป เรามีความสามารถ และเราสามารถเลือกได้”

ถึงแม้ที่ไทยการใช้สุนัขนำทางอาจไม่เป็นที่นิยมและมีความลำบากไปบ้าง แต่ทรายก็จะพยายามต่อไป ทรายอยากให้สังคมไทยปรับทัศนคติต่อคนตาบอดรวมถึงคนพิการทั่วไปด้วยนะคะ อยากให้มองว่าพวกเราพึ่งพาตัวเองได้ ผู้พิการก็เหมือนคนทั่วไป และควรได้รับสิทธิ์ในการเลือกใช้อุปกรณ์นำทางได้เองค่ะ

 
เจ้าของเพจ “ผมชื่อลูเต้อร์”

The Plan

• ชีวิตไม่มีอะไรยาก แค่เราต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ ปรับตัว และยอมรับตัวเองให้ได้ ถ้าเรามั่นใจในตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องทำได้แน่นอน

• อย่ากลัวที่จะเป็นคนเริ่ม ถึงแม้ตอนแรกจะยังไม่มีใครเข้าใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ดีที่ถูกต้อง สักวันต้องมีคนเข้าใจและเห็นด้วยกับเราแน่นอน

• การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ ควรวางแผนในทุกๆ ช่วงเวลาของชีวิต เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ถ้าวางแผนดียังไงก็รอด