ความรับผิดชอบส่วนแรกในประกันสุขภาพ คืออะไร?

ความรับผิดชอบส่วนแรกในประกันสุขภาพ คืออะไร?

สำหรับหลาย ๆ ท่านที่กำลังวางแผนหาข้อมูลทำประกันสุขภาพ อาจจะคุ้นชินกับคำว่าความรับผิดชอบส่วนแรก หรือ Deductible กันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจริง ๆ แล้วค่ารับผิดชอบส่วนแรกคืออะไร บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจกับความหมายของความรับผิดชอบส่วนแรก ประโยชน์สำหรับผู้ทำประกันสุขภาพ รวมถึงวิธีการเลือกวงเงินค่ารักษา Deductible ก่อนเลือกซื้อให้เหมาะกับคุณ

ความรับผิดชอบส่วนแรก (Deductible) คืออะไร ?

ความรับผิดชอบส่วนแรก หมายถึง วงเงินที่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลในส่วนแรกเองก่อนตามข้อตกลงของสัญญาประกันภัยสำหรับประกันสุขภาพ และเมื่อชำระค่าความรับผิดชอบส่วนแรกครบตามเงื่อนไขแล้ว เมื่อผู้เอาประกันรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วมีค่าใช้จ่ายเกินวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์ บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้ชำระค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินให้ตามสิทธิประโยชน์ในกรมธรรม์ที่สมัครรับความคุ้มครองไว้ ทั้งนี้ ในการทำประกันสุขภาพผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกทำแบบมีหรือไม่มีความรับผิดส่วนแรกได้ตามความต้องการ

ประเภทของความรับผิดชอบส่วนแรก (Deductible)

กรมธรรม์ประกันสุขภาพแบบเลือกมีความรับผิดชอบส่วนแรก แบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  1. ความรับผิดชอบส่วนแรกแบบต่อครั้ง (Per Incident Deductible)
    คือการที่ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายค่าความรับผิดชอบส่วนแรกสำหรับแต่ละครั้งที่เจ็บป่วย โดยในกรมธรรม์จะกำหนดไว้ว่าผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากจ่ายวงเงิน Deductible ด้วยตัวเองหรือเคลมกับประกันอื่น ๆ ที่มีอยู่ครบแล้ว หากมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินบริษัทประกันจึงจะเริ่มจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์

  2. ความรับผิดชอบส่วนแรกแบบต่อปี (Annual Deductible)
    เป็นวงเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองสำหรับทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาในรอบปีกรมธรรม์นั้น ๆ โดยจะมีการกำหนดวงเงินความรับผิดชอบส่วนแรกที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายต่อปี ซึ่งถ้าค่ารักษารวมทั้งปีครบวงเงิน Deductible ที่ต้องจ่ายแล้ว บริษัทประกันจะเริ่มจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินให้ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์

    อย่างไรก็ตาม หากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อครั้งหรือต่อปี ไม่ถึงวงเงินความรับผิดชอบส่วนแรกที่กำหนดในแผนประกัน ผู้เอาประกันภัยจะไม่สามารถเคลมค่าใช้จ่ายได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งด้วย ก่อนทำประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดชอบส่วนแรกจึงควรศึกษารายละเอียด เพื่อเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์คุณที่สุดนั่นเอง

ประโยชน์และความสำคัญของวงเงินค่ารักษา Deductible

ประกันสุขภาพแบบจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนแรกของการรักษา เป็นประกันที่มีส่วนสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในได้ค่อนข้างมาก และตอบโจทย์ผู้ที่มีประกันภัยกลุ่มซึ่งเป็นสวัสดิการขององค์กรหรือมีประกันสุขภาพส่วนบุคคลแผนเดิมให้ความคุ้มครองอยู่แล้ว แต่อาจสนใจทำประกันสุขภาพให้กับตัวเองหรือคนสำคัญเพิ่มเติม ประกันประเภทนี้ยังมีประโยชน์และความสำคัญด้านอื่น ๆ อีก ดังนี้

  • ค่าเบี้ยฯ ประหยัดกว่า: ประกันสุขภาพแบบมีวงเงิน Deductible มักมีค่าเบี้ยประกันถูกกว่าค่าเบี้ยประกันสุขภาพทั่วไปค่อนข้างมาก และเป็นประกันภัยที่ผู้เอาประกันสามารถเบิกค่าใช้จ่ายส่วนแรกกับประกันที่มีอยู่แล้วได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน แผนประกัน และวงเงินความรับผิดชอบส่วนแรกที่เลือกเช่นกัน

  • เพิ่มวงเงินความคุ้มครอง: ในกรณีที่ประกันสุขภาพ สวัสดิการรัฐหรือสวัสดิการของบริษัทที่มีอยู่เดิมมีวงเงินจำกัดหรือมีความคุ้มครองไม่เพียงพอ ประกันแบบมี Deductible จะเข้ามาเป็นส่วนเสริมในการคุ้มครองโรคและเพิ่มวงเงินการรักษาพยาบาลได้

  • แบ่งเบาค่ารักษาพยาบาล: ประกันแบบจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนแรกของการรักษา มักให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมถึงโรคร้ายแรง รวมถึงในกรณีที่คุณป่วยหนักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้น จึงเป็นการช่วยแบ่งเบาค่ารักษาที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

  • ตัวเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะกับงบประมาณ: ประกันสุขภาพแบบมีวงเงิน Deductible เป็นประกันที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกวงเงินค่ารับผิดส่วนแรกให้เข้ากับงบประมาณที่มีได้ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่สนใจทำประกันเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะกับตัวเองได้มากขึ้น

ตัวอย่างประโยชน์ของการทำประกันที่มี Deductible

ผู้ชาย ชื่อนาย A อายุ 31 ปี เป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง มีประกันกลุ่มขององค์กรซึ่งเป็นสวัสดิการอยู่แล้ว จึงเลือกทำประกันสุขภาพแผนความคุ้มครองสุขภาพ แผน 1: คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 300,000 บาท และเลือกความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท เมื่อคำนวณเบี้ยประกัน
  • กรณีเลือกแผนแบบมีความรับผิดส่วนแรก: เบี้ยประกันภัยรายปี อยู่ที่ 7,120 บาท
  • กรณีเลือกแผนประกันที่ไม่มีค่าความรับผิดชอบส่วนแรก: เบี้ยประกันภัยรายปี จะอยู่ที่ 12,442 บาท
    เท่ากับว่า ประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยไปถึง 5,322 บาทต่อปี
และเมื่อนาย A เข้ารับการรักษาพยาบาลครั้งแรก มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 170,000 บาท
  • สวัสดิการเดิม (ประกันกลุ่มขององค์กร) ที่มีอยู่เคลมได้ 100,000 บาท
  • นาย A จะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เหลือ 70,000 บาทเลย เพราะความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท จะถูกคิดอยู่ในสวัสดิการก้อนแรก 100,000 บาท
ข้อนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าประกันสุขภาพที่มีวงเงินความรับผิดชอบส่วนแรกช่วยแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลของนาย A และช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากสวัสดิการที่มีอยู่ได้
 

เลือกค่าใช้จ่ายส่วนแรกของการรักษา (Deductible) อย่างไรให้เหมาะสม

การเลือกวงเงิน Deductible หรือความรับผิดชอบส่วนแรกในกรมธรรม์ประกันสุขภาพนั้น มีสิ่งที่ควรพิจารณาหลายด้าน ดังนี้

1. งบประมาณและความสามารถในการจ่าย
ลองพิจารณาเลือกแผนประกันและวงเงินความรับผิดชอบส่วนแรกให้สอดคล้องกับงบประมาณและความสามารถในการจ่ายของคุณ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว แผนประกันสุขภาพที่จ่ายค่า Deductible สูง จะมีค่าเบี้ยประกันถูกลง เนื่องจากผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลในส่วนแรกเอง แต่ทั้งนี้ผู้เอาประกันจะต้องเตรียมเงินสำรองจ่ายในส่วนนี้ไว้เสมอ ในทางกลับกันประกันที่มีวงเงินค่ารักษา Deductible ต่ำ ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่า แต่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนแรกน้อยกว่า ดังนั้น ลองชั่งน้ำหนักดูว่าเบี้ยประกันภัยและวงเงินเท่าไหร่ที่เหมาะกับงบประมาณของคุณ

2. ประวัติสุขภาพและความถี่ของการรักษาพยาบาล
หากคุณมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยหรือไม่เป็นโรคร้าย อาจเลือกประกันที่มีวงเงินค่ารักษา Deductible สูง เพราะโอกาสที่คุณจะต้องจ่ายเงินในส่วนนี้จะน้อยลง ทั้งยังได้ค่าเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่า แต่หากคุณค่อนข้างเจ็บป่วยบ่อยครั้ง มีโรคประจำตัว ควรเลือกประกันสุขภาพที่มีวงเงิน Deductible ต่ำ เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าความรับผิดชอบส่วนแรกลง ในอีกแง่หนึ่ง เมื่อต้องเข้ารับการรักษาบ่อย Deductible ถูกจ่ายครบเร็วขึ้น ประกันจะเริ่มครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ส่วนที่เหลือเร็วขึ้นด้วย นอกเหนือจากนี้ ประกันสุขภาพที่มีวงเงิน Deductible ต่ำจะช่วยลดความเสี่ยงที่คุณจะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วย

3. เปรียบเทียบหลายแผนประกันจากบริษัทต่าง ๆ
ก่อนจะเลือกประกันสุขภาพที่มีความรับผิดชอบส่วนแรก ให้ลองเปรียบเทียบแผนประกันประเภทนี้จากหลาย ๆ บริษัทประกันภัย โดยพิจารณาจากค่าเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง จำนวนเงินเอาประกันภัย ข้อยกเว้นความคุ้มครอง และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่บริษัทประกันภัยแต่ละแบรนด์กำหนด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้แผนประกันที่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง

4. ความคุ้มครองครบถ้วนครอบคลุม
อย่าลืมตรวจสอบให้ดีว่าประกันสุขภาพที่มีวงเงิน Deductible นั้น ให้ความคุ้มครองด้านต่าง ๆ ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของผู้เอาประกันภัยหรือไม่ โดยอาจตั้งคำถาม เช่น

  • ประกันแผนนี้มีวงเงินความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่
  • ความคุ้มครองครอบคลุมค่าห้องพักและอาหารหรือไม่
  • ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีโรคร้ายแรงหรือไม่
  • มีผลประโยชน์เงินชดเชยเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงหรือไม่
นอกจากนี้ คุณอาจคิดต่อในอีกขั้นว่าประกันที่เลือกสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ด้วยไหม เพื่อจะได้วางแผนการเงินได้อีกทางหนึ่งด้วย
 

ประกันสุขภาพ บีแอลเอ คอมพลีท เฮลธ์ (BLA Complete Health) ป่วยบ่อยแค่ไหนก็ไม่ลำบากเรื่องค่าใช้จ่าย

ใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพที่ซื้อง่าย ราคาค่าเบี้ยฯ สบายกระเป๋า ที่สำคัญให้ความคุ้มครองครบตามลิสต์คำถามด้านบน ขอแนะนำประกันสุขภาพออนไลน์ บีแอลเอ คอมพลีท เฮลธ์ จาก กรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) ประกันภัยที่คุณสามารถเลือกจ่ายค่าเบี้ยฯ รายปีหรือรายเดือน และยังเลือกความรับผิดส่วนแรก (Deductible) เพื่อลดค่าเบี้ยประกันภัยให้ถูกลงได้ และประกันสุขภาพ BLA Complete Health ยังมีจุดเด่นอย่างการเป็นประกันสุขภาพที่มีประกันชีวิตในตัว ตอบโจทย์ทั้งซื้อให้ตัวคุณเองและครอบครัวที่คุณรัก

  • ประกันสุขภาพ ออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ อายุผู้รับประกันภัย 20 - 65 ปี
  • ค่าเบี้ยประกันภัย เริ่มต้นเพียง 477 บาท/เดือน 3
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000,000 บาท/ครั้ง 1 ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี
  • คุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี รับ 50,000 บาท
  • ครอบคลุมค่าห้องพักเดี่ยวราคาเริ่มต้นของโรงพยาบาล 1
  • เมื่อได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง 1 ใน 20 โรค เป็นครั้งแรก รับ 100,000 บาท
  • กรณีเข้าพักรักษาตัวจากโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง รับผลประโยชน์รวมสูงสุดเพิ่มเป็น 5,500,000 บาท 1
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ 2

สนใจรับความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากประกันสุขภาพบีแอลเอ คอมพลีท เฮลธ์ (BLA Complete Health) สมัครผ่านออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ https://bla.bangkoklife.com/oBmNnfgGID หรือต้องการศึกษาแผนประกันเพิ่มเติม สามารถเช็กได้ที่เว็บไซต์ https://bla.bangkoklife.com/qxpslUPUHn

หมายเหตุ
- โปรดทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ความคุ้มครองและผลประโยชน์: บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสมควร ซึ่งเกิดจากการรักษาพยาบาลที่มีความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ที่ระบุไว้ในหน้าตารางผลประโยชน์ความคุ้มครอง
- สำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยรายเดือน ต้องชำระเบี้ยประกันภัยครั้งแรก 2 งวด

1 สำหรับแผนความคุ้มครอง 3
2 ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
3 ค่าเบี้ยประกันภัย คำนวณจากลูกค้าเพศชาย อายุ 20 ปี ความคุ้มครองสุขภาพแผน 1: 300,000 บาท เลือกความรับผิดส่วนแรก 30,000 บาท
 

อ้างอิง : settrade.com