endowment-insurance-tax-saving-thumb

ทำไมประกันสะสมทรัพย์เป็นวิธีลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจ?

Facebook
Copy
endowment-insurance-tax-saving-thumb

สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี ขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ลดหย่อนภาษีอย่างคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการได้รับความคุ้มครองชีวิต พร้อมช่วยวางแผนการเงินที่ดีในอนาคตไปพร้อมๆ กัน นั่นก็คือ “ประกันสะสมทรัพย์” หรือ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment) ซึ่งเป็นประกันชีวิตรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยสร้างเงินออมให้กับผู้เอาประกันภัยไปด้วย โดยในระหว่างระยะเวลาสัญญา คุณจะได้รับความคุ้มครองชีวิตควบคู่กับได้รับผลประโยชน์เงินคืนในแต่ละปี (ขึ้นอยู่กับรูปแบบของแต่ละแบบประกัน) รวมถึงเมื่อครบกำหนดสัญญา ก็จะได้รับผลประโยชน์เงินคืนก้อนใหญ่ ซึ่งจะเป็นเงินทุนสำรองที่มั่นคงสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างสบายใจ รวมถึงความคุ้มครองชีวิตที่คุณได้รับในระหว่างระยะเวลาการเอาประกันภัย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ครอบครัว หรือผู้รับผลประโยชน์ของคุณจะได้รับเงินก้อนคืนเพื่อเป็นหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงพวกเขาอีกด้วย เรียกได้ว่า ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ช่วยให้คุณวางแผนทางการเงินสู่ความมั่นคงในอนาคตได้เป็นอย่างดี พร้อมรับความคุ้มครองชีวิตไปในแผนเดียวกัน ซึ่งใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

5 เหตุผล ที่ควรทำประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะในช่วงปลายปี ที่คนส่วนมากมองหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีอย่างประกันสะสมทรัพย์ แน่นอนว่า นอกเหนือไปจากข้อดีของการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ประกันสะสมทรัพย์เองก็มีอีกหลายเหตุผลดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจทำประกันนี้ได้อย่างไม่ต้องลังเล

  1. เบี้ยประกันภัยนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ : สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเป็นผู้ที่มีเงินได้ในระหว่างปีที่ผ่านมาคือ “การเสียภาษี” และเมื่อครบ 1 ปีภาษี คนที่มีเงินได้ มีหน้าที่ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ โดยเงินได้สุทธิสามารถหาได้จากการนำรายได้ทั้งหมดมารวมกัน พร้อมหาค่าลดหย่อนต่าง ๆ (เช่น ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน) และนำมาหักออกจากรายได้ทั้งหมด เหลือเท่าไรคือเงินได้สุทธิที่จะนำไปคำนวณภาษีแบบขั้นบันได ซึ่งหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับตัวช่วยลดหย่อนภาษี ก็คือประกันสะสมทรัพย์นี่เอง โดยเบี้ยประกันภัยสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท/ ปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

  2. ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน : ประกันสะสมทรัพย์เป็นประกันชีวิตรูปแบบการสร้างเงินออมที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยแต่ละแบบประกันจะมีแผนความคุ้มครองและรูปแบบผลประโยชน์เงินคืนที่กำหนดเอาไว้ ทำให้ผู้เอาประกันภัยได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ไม่ผันผวนทางเศรษฐกิจ ช่วยให้สามารถวางแผนทางการเงินในอนาคตได้อย่างแม่นยำ รวมถึงผลประโยชน์ตอบแทนรวมเมื่อครบสัญญา จะได้รับมากกว่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระไป ซึ่งเป็นผลประโยชน์เงินคืนที่แบบประกันการันตีว่าคุณได้รับแน่นอน ช่วยสร้างเงินออมของคุณให้งอกเงยได้

  3. วางแผนทางการเงินในระยะยาวได้ : ประกันสะสมทรัพย์แต่ละแผน จะมีรูปแบบในการชำระเบี้ยรายเดือน/ รายปี ในระยะเวลาแตกต่างกันออกไป เช่น 1 ปี จ่ายครั้งเดียวจบ จ่ายเบี้ยฯสั้น 2 ปี หรือ 5 ปี โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับผลประโยชน์เงินคืนในรูปแบบที่แตกต่างออกไปตามแต่ละแผนเช่นกัน เช่น ได้รับเงินคืนทุกปีตลอดระยะเวลาสัญญา ได้รับเงินคืนก้อนใหญ่เมื่อถึงปีกรมธรรม์ที่ 7 หรือได้เงินก้อนคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา ซึ่งรูปแบนี้ เป็นอีกหนึ่งในข้อดีของการทำประกันสะสมทรัพย์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะนำเงินออกมาใช้ก่อนถึงครบกำหนด และได้รับเงินคืนในแต่ละปีตามเงื่อนไขกรมธรรม์ เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยสร้างวินัยการออมเงินที่ดี ให้คุณวางแผนทางการเงินในอนาคตได้

  4. ได้รับความคุ้มครองชีวิต : ช่วยให้คุณเตรียมพร้อมกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น กรณีเสียชีวิต จะได้รับเงินก้อนคืนตามทุนประกันชีวิต โดยมอบให้ผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถระบุได้ว่าจะมอบให้กับใครในครอบครัว ที่มีความสัมพันธ์เป็น บิดา / มารดา / บุตร / สามี / ภรรยา / พี่ / น้อง รวมถึงสามารถกำหนดสัดส่วน % ของผลประโยชน์เงินคืนนี้ได้อีกด้วย ว่าจะมอบให้ใครในสัดส่วนเท่าไหร่ ทั้งนี้สามารถทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ได้ทั้งในมุมของคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ทำเพื่อเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น หรือในมุมของพ่อแม่สูงวัย ที่ต้องการช่วยสร้างความมั่นคง และอยากลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีที่ตนเองเสียชีวิตให้กับลูก หลานที่ยังอยู่ได้อีกด้วย เนื่องจากประกันสะสมทรัพย์บางแผน อายุรับประกันภัยสูงถึงอายุ 80 ปี

  5. ผลประโยชน์เงินคืนได้จากประกันสะสมทรัพย์ได้รับการยกเว้นภาษี : ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่น่าสนใจมาก ๆ ของการทำประกันสะสมทรัพย์ เนื่องจากผลประโยชน์เงินคืนที่ได้รับ คุณจะได้รับไปเต็มจำนวน ต่างจากผลประโยชน์เงินคืนจากการสร้างเงินออมรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนกับกองทุนรวม หรือแม้แต่การฝากเงินกับธนาคาร โดยดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินฝากธนาคาร ก็จะต้องเสียภาษีอีกด้วย

ประกันสะสมทรัพย์ ประกันลดหย่อนภาษี

จากเหตุผลข้อแรกข้างต้นที่กล่าวว่าประกันสะสมทรัพย์ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเบี้ยฯ ที่จ่ายจริง มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมของการใช้ประกันสะสมทรัพย์ในการลดหย่อนภาษีกันว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง

ประกันชีวิตทั่วไป สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment) นับเป็นประกันชีวิตทั่วไปรูปแบบหนึ่ง โดยเงื่อนไขการใช้ประกันชีวิตแบบทั่วไปลดหย่อนภาษีมีดังนี้

  • สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
  • หากมีประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ ลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
  • ต้องเป็นประกันชีวิตโดยบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น
  • กรมธรรม์ประกันชีวิตต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป
  • กรณีที่ประกันมีการจ่ายเงินคืนทุกปี จำนวนเงินต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยรายปี หรือหากเป็นการจ่ายเงินคืนตามช่วงเวลา จำนวนเงินต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมของแต่ละช่วงเวลา
  • หากมีการเลิกสัญญา หรือเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี จะไม่สามารถใช้สิทธิประกันลดหย่อนภาษีของกรมธรรม์ฉบับนั้นได้อีก พร้อมคืนภาษีย้อนหลังทั้งหมดที่ได้รับการลดหย่อนไป บวกกับดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือนของยอดภาษีที่ต้องจ่าย

วิธีเลือกประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี

เมื่อคุณตัดสินใจให้ประกันสะสมทรัพย์เป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษี ก็มาถึงวิธีการเลือกประกันสะสมทรัพย์ให้คุ้มค่า มีรูปแบบที่เหมาะกับแผนทางการเงินของคุณ ตามคำแนะนำดังนี้

  • เลือกประกันสะสมทรัพย์ตามเป้าหมายทางการเงิน : ปัจจุบันมีประกันสะสมทรัพย์หลากหลายรูปแบบให้เลือก จึงแนะนำให้เลือกจากเป้าหมายการการเงินของคุณเป็นหลัก เช่น ต้องการสร้าเงินก้อนในเพื่อใช้ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ก็เลือกประกันสะสมททรัพย์ที่มอบความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป โดยได้รับผลเงินก้อนคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา หรือ ต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อนำไปใช้จ่าย หรือวางแผนในการลงทุนต่อยอดธุรกิจ ในระยะเวลาที่เร็วกว่า 10 ปี ก็แนะนำให้มองหาแบบประกันที่มอบเงินคืนก้อนใหญ่ในช่วงระหว่างระยะเวลาสัญญา และได้รับคืนอีกก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา ซึ่งการวางแผนเผ้สหมายทางการเงินแบบนี้ จะช่วยให้คุณมองหาแบบประกันที่เหมาะสมได้ง่ายยิ่งขึ้น

  • เลือกประกันสะสมทรัพย์จากความสามารถในการจ่ายเบี้ยฯ : แม้ว่าผลตอบแทนของประกันนั้น ๆ จะน่าสนใจเพียงใด ก็ต้องไม่ลืมที่จะประเมินว่าสามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ตามเงื่อนไขหรือไม่ แบบประกันนั้น ๆ รับชำระเบี้ยฯ เป็นรายเดือนหรือรายปี และต้องชำระเบี้ยประกันภัยเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ เพื่อวางแผนจ่ายเบี้ยประกันได้อย่างต่อเนื่อง เพราะหากหยุดชำระในระหว่างสัญญาก็จะทำให้เสียประโยชน์ในการรับผลตอบแทน และสิทธิลดหย่อนภาษีไปด้วย

  • ศึกษารายละเอียดก่อนทำประกันทุกครั้ง : ดูข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้าน ทั้งความคุ้มครองชีวิต ผลประโยชน์เงินคืน เงื่อนไขและระยะเวลาความคุ้มครอง รวมไปถึงข้อยกเว้นของประกันแต่ละประเภทอย่างละเอียด

ซึ่งกรุงเทพประกันชีวิต มีบริการประกันชีวิตออนไลน์ ที่คุณสามารถกดดูรายละเอียดความคุ้มครองของแต่ละแบบประกันได้ สามารถกดคำนวณเบี้ย ดูผลประโยชน์เงินคืน รวมถึงเปรียบเทียบแต่ละแบบประกัน เพื่อให้คุณเลือกประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษีได้ตรงกับความต้องการของคุณได้มากที่สุด โดยคุณสามารถกดซื้อออนไลน์ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ พร้อมรับสิทธิพิเศษในแต่ละเดือนเฉพาะการซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ เรียกได้ว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าอย่างที่สุดในการทำประกันสะสมทรัพย์

หมายเหตุ
- โปรดทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

แนะนำผลิตภัณฑ์

Unknown Product

Unknown Product

No description available

No details available

ดูรายละเอียด
Unknown Product

Unknown Product

No description available

No details available

ดูรายละเอียด
Unknown Product

Unknown Product

No description available

No details available

ดูรายละเอียด
Unknown Product

Unknown Product

No description available

No details available

ดูรายละเอียด
thumb-logo

แบบประกันออนไลน์ทั้งหมด

ดูรายละเอียด

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงการนำเสนอข้อมูลและเนื้อหาต่าง ๆ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเราถือว่าท่านยอมรับ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ประกาศความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ ของเรา