second-chance-after-midlife-crisis-thumb

Midlife Crisis วิกฤตที่เป็นโอกาส เริ่มต้นชีวิตใหม่

Facebook
Copy
second-chance-after-midlife-crisis-thumb

ชีวิตของทุกคนย่อมต้องผ่านพ้นช่วงวิกฤตต่าง ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยหนึ่งในวิกฤตที่ทำให้ชีวิตของหลาย ๆ คนเปลี่ยนไป คือ “Midlife Crisis” หรือวิกฤตวัยกลางคน ที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะเมื่อชีวิตเริ่มเข้าสู่ภาวะคงที่ ทำให้หลายคนรู้สึกถูกกดดันจากสังคม อาชีพ และความรับผิดชอบรอบด้าน จนไม่มีเวลาทำในสิ่งที่ตนชอบและสนใจ ก่อให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ขาดพลังชีวิต และคิดว่าชีวิตของตนไม่มีความหมาย

หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่แท้จริงมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากแต่เป็นโอกาสให้เราได้หันกลับมามองชีวิตของตัวเองอีกครั้ง เพื่อให้ตัวเองได้ปรับ เปลี่ยน และแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น และการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อาจนำพาชีวิตคุณไปสู่ความสุข และสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่าที่เคยเป็นก็ได้

Midlife Crisis คืออะไร และอะไรเป็นสาเหตุของการเกิดวิกฤตนี้?

Midlife Crisis หรือวิกฤตวัยกลางคน เป็นภาวะทางจิตใจที่มักจะเกิดขึ้นกับวัยกลางคน ช่วงอายุ 35-65 ปี โดยผู้ที่ประสบกับวิกฤตนี้มักจะรู้สึกวิตกกังวล น้อยใจ สับสน เครียด หาความสุขไม่ได้ หรือไม่แน่ใจในชีวิตของตนเอง ซึ่งวิกฤตวัยกลางคนนี้ ไม่ใช่โรคจิตเภท แต่อาจส่งผลให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ในอนาคต โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตวัยกลางคน อ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา สามารถสรุปได้ดังนี้

  • แรงกดดันจากสังคม : ในสังคมที่มีบรรทัดฐานกำหนดว่าชีวิตควรเป็นอย่างไร ต้องประสบความสำเร็จแค่ไหน หรืออาชีพต้องก้าวหน้าถึงขั้นไหน จึงกลายเป็นแรงกดดัน เมื่อไม่สามารถใช้ชีวิตให้เป็นแบบนั้นได้
  • ร่างกายเปลี่ยนไป ไม่เหมือนตอนหนุ่มสาว : เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็เสื่อมลงเป็นธรรมดา มีริ้วรอย ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเก่า ทำให้บางคนรู้สึกแย่กับตัวเอง
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน : ผู้หญิงในวัย 35-40 ปี จะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ทำให้หงุดหงิดง่ายกว่าที่เคยเป็น
  • เกิดการเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ : วัยกลางคนบางคนอาจมีการหย่าร้าง แยกทาง หรือบางคนที่ลูกเริ่มโต และแยกออกไปใช้ชีวิต ทำให้รู้สึกกลับมาโดดเดี่ยวอีกครั้ง
  • สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก : การสูญเสียบุคคลในชีวิตโดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน อาจทำให้บางคนไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์นั้นได้ และนำไปสู่วิกฤตวัยกลางคนนี้ในที่สุด

จากข้างต้นสรุปได้ว่า วิกฤตวัยกลางคนมักเกี่ยวข้องกับการค้นหาความหมายของชีวิต การตระหนักถึงความจำกัดของเวลามากขึ้น และการพยายามปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และบทบาทสังคม

เราจะรู้ได้ยังไงว่ากำลังเผชิญกับวิกฤตวัยกลางคนอยู่?

แม้วิกฤตวัยกลางคนจะไม่ได้เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ แต่แรงกดดันจากสังคมในปัจจุบัน ก็ส่งผลให้มีคนประสบปัญหานี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่จัดการให้ถูกวิธี ก็อาจส่งผลกระทบระยะยาว จนนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้ เพราะฉะนั้นมาสังเกตตัวเองกัน ว่ามีสัญญาณของวิกฤตวัยกลางคนหรือไม่ จะได้หาทางแก้ไขได้ทัน โดยสามารถสังเกตได้ดังนี้

  • รู้สึกเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิต เบื่องาน ขาดแรงบันดาลใจ : อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกว่างานที่ทำน่าเบื่อ ไม่ท้าทาย หรือรู้สึกว่าไม่สามารถหาความสุขจากสิ่งเดิม ๆ ได้อีกต่อไปแล้ว และรู้สึกซึมเศร้า หดหู่ ไร้แรงจูงใจไปพร้อม ๆ กัน
  • ไม่พอใจกับรูปร่างหน้าตา สุขภาพ หรือการเป็นตัวเอง : รู้สึกไม่พอใจกับอายุที่มากขึ้น เห็นร่องริ้วรอยบนใบหน้าแล้วไม่อยากยอมรับความจริง และอยากกลับไปสวย หล่อ เหมือนแต่ก่อน
  • ต้องการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งในชีวิต : อยากเปลี่ยนงานใหม่ อยากเปลี่ยนสถานภาพ เช่น หย่าร้าง หรือแต่งงานใหม่ หรืออยากเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ เช่น ทำศัลยกรรม
  • รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว และรู้สึกว่าชีวิตกำลังจะสิ้นสุดลง : เริ่มกังวลถึงอนาคตที่ไม่แน่นอน คิดถึงความหมายและคุณค่าของการใช้ชีวิตมากขึ้น และเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง และควรจะทำอะไรต่อไป
  • ตัดสินใจเร็ว ไม่คิดหน้าคิดหลัง : เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเวลาในการใช้ชีวิตเหลือไม่มาก พออยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่คิดหน้าคิดหลัง โดยที่ก่อน หรือหลังการตัดสินใจ มักจะเครียด และกังวลในสิ่งที่จะกระทำ
  • นอนไม่หลับ มีปัญหาเรื่องการนอน : พฤติกรรมการนอน และการกินเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งข้อนี้เป็นสัญญาณสำคัญที่อาจบอกว่า คุณกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว ต้องรีบจัดการโดยด่วน

หากคุณมีสัญญาณเหล่านี้ แสดงว่าคุณกำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงและวิกฤตภายในจิตใจ แต่ไม่ต้องกลัว เพราะเราสามารถเตรียมพร้อมให้ก้าวพ้นช่วงเวลานี้ และเดินหน้าสู่ชีวิตใหม่ได้อย่างมั่นใจและมีความสุขมากขึ้นได้

3 วิธีเตรียมรับมือ เพื่อเติมเชื้อไฟให้ชีวิตมีความสุข และมีพลังอีกครั้ง

ยามที่ต้องเผชิญกับวิกฤตวัยกลางคน หากเราเตรียมรับมือมาอย่างดี และมองว่านี่คือโอกาสให้เราได้สำรวจตนเองใหม่ เพื่อวางแผนการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเคย ก็จะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ โดยในบทความนี้จะมาแนะนำ 3 กลยุทธ์สำคัญ ดังนี้

  1. การปรับการใช้ชีวิต

    ควรหันมาใส่ใจในสิ่งที่มีคุณค่า และทำให้เรามีความสุขมากขึ้น เช่น งานอดิเรกที่ชอบ การใช้เวลากับคนรัก ดื่มด่ำความสุขไปกับสิ่งเล็ก ๆ รอบตัว เพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ซึ่งอาจช่วยให้เราได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ กลับมา ที่สำคัญควรแบ่งเวลาให้สมดุลด้วย

    ลองทบทวน และตั้งเป้าหมายใหม่ให้ชีวิต แม้ที่ผ่านมาเป้าหมายที่เคยตั้งไว้อาจจะยังไม่สำเร็จ แต่ทุกอย่างล้วนเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ดังนั้นมาลองตั้งเป้าหมายใหม่สักอย่าง แล้วลงมือทำเลย อาจจะเป็นความฝัน หรือสิ่งที่คิดมานานแล้ว แต่ไม่ได้ทำสักที เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ให้เรามีไฟมุ่งสู่จุดหมายปลายทางให้สำเร็จได้ในที่สุด

  2. การวางแผนการจัดการเงิน

    เริ่มต้นจากวิเคราะห์สถานะทางการเงินของตนเองในปัจจุบัน ดูว่ารายรับ-รายจ่าย เป็นอย่างไร มีหนี้สินอะไรไหม เพื่อจะวางแผนการใช้จ่ายให้เหมาะสม และไม่บีบคั้นจนเกินไป

    โดยหนึ่งในวิธีวางแผนจัดการการเงินที่เราแนะนำ คือ การทำประกันออมทรัพย์และประกันบำนาญ เพื่อคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับการบริหารเงินออม เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการลงทุนแล้ว ยังมีผลตอบแทนที่แน่นอนตามสัญญา ซึ่งเราสามารถเลือกแผนประกันออมทรัพย์ เลือกระยะการชำระเบี้ยที่เหมาะกับเราได้อย่างยืดหยุ่น

    • ยกตัวอย่าง ประกันออมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 15/10 จากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) ที่ช่วยสร้างเงินออมหลักแสน ด้วยเบี้ยเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,000 บาท
      • รับเงินคืนทุกปี ปีละ 2% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และเมื่อครบกำหนดสัญญารับ 108% (%ของจำนวนเงินเอาประกันภัย)
      • ได้รับความคุ้มครองชีวิตนานถึง 15 ปี หากเสียชีวิต รับเงินคืนสูงสุด 130% (%ของจำนวนเงินเอาประกันภัย)
      • ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี 1

    • ยกตัวอย่าง ประกันบำนาญ แฮปปี้ เพนชั่น (มีเงินปันผล) จากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) ที่การันตีเงินบำนาญถึงอายุ 99 ปี และมีโอกาสรับเงินบำนาญเพิ่มพิเศษ ช่วยให้คุณสามารถวางแผนวัยเกษียณได้อย่างสบายใจ จัดการได้ง่าย เลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้ ตั้งแต่ 1 ปี, 5 ปี, 10 ปี หรือจนถึงอายุ 60 ปี พร้อมนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ถึง 300,000 บาทต่อปี 1

  3. การวางแผนด้านสุขภาพ

    หาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาสุขภาพ ลดโรคภัย และผ่อนคลายความเครียดจากเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบเจอ และเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปรับอาหารให้เหมาะสมกับวัย ลดอาหารจานด่วน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    วางแผนเรื่องสุขภาพด้วยการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพื่อไม่ให้กระทบเรื่องการเงินในอนาคต เพราะอย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ทุกคนต้องเจออีกหนึ่งก้อน คือ ค่ารักษาพยาบาล ไม่มีใครหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยได้ หากโชคร้ายเป็นโรคร้ายแรงที่ต้องผ่าตัด หรือต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งสูงขึ้นตาม

    ดังนั้นการมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ถือเป็นการคุ้มครองขั้นพื้นฐานที่เราสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ อาจไม่ใช่ประกันที่มีผลกำไรตอบแทนเหมือนประกันสะสมทรัพย์ แต่ประกันชีวิตเหมือนการวางแผนล่วงหน้าระยาว แถมยังช่วยการันตีได้ว่า หากเจ็บป่วยขึ้นมา ก็ไม่ต้องควักเงินจ่ายเอง บริษัทประกันฯ จะเข้ามาดูแลให้ อีกทั้งเบี้ยประกันที่จ่ายไป ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษี 1 ได้อีกด้วย บอกเลยว่าได้ผลประโยชน์กลับมาทั้งสองทาง ยิ่งวางแผนการทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อยยิ่งได้เปรียบ

    • ยกตัวอย่าง ประกันสุขภาพออนไลน์ บีแอลเอ คอมพลีท เฮลธ์ จากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5 ล้านบาท ต่อครั้ง 2 และไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี แถมยังครอบคลุมค่าห้องพักเดี่ยวราคาเริ่มต้นของโรงพยาบาล 2
      • รับ 100,000 บาท เมื่อได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง 1 ใน 20 โรค เป็นครั้งแรก
      • เลือกชำระเบี้ยได้ทั้งแบบรายปี และรายเดือน
      • สามารถเลือกกำหนดแผนความคุ้มครองแบบมีความรับผิดส่วนแรก 3 เพื่อลดค่าเบี้ยประกันภัยให้ถูกลง จัดสรรให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณได้เลย
      • ใช้ลดหย่อนภาษีได้ 1

แม้วิกฤตวัยกลางคนจะเป็นเรื่องที่เกิดได้กับทุกคน แต่อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ “วิกฤต” หรือ “เรื่องน่ากลัว” แต่เป็นโอกาสให้เราได้ตั้งหลักทบทวนชีวิตของตัวเอง ให้มีความหมายและมีคุณค่ายิ่งขึ้น เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคและข้อจำกัดในอดีต ไปสู่การเริ่มต้นชีวิตใหม่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และประสบการณ์ใหม่ ๆ ดังนั้นใครกำลังเผชิญวิกฤตนี้อยู่ อย่าลืมนำ 3 กลยุทธ์ข้างต้นไปปรับใช้ เพื่อให้สามารถข้ามผ่านวิกฤตวัยกลางคนนี้ไปได้อย่างราบรื่น และมีพลังใจ พร้อมเปิดรับช่วงชีวิตใหม่ได้อย่างเต็มที่

เริ่มต้นวางแผนการใช้ชีวิต วางแผนทางการเงิน และวางแผนเรื่องสุขภาพให้พร้อม ด้วยแผนประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ ประกันบำนาญ และประกันสุขภาพ จากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) มีหลายแผนให้เลือกตามความต้องการ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณ

สนใจทำประกันออนไลน์กับกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) หรือต้องการศึกษาแผนประกันเพิ่มเติม สามารถเช็กได้ที่เว็บไซต์ https://www.bangkoklife.com/online/th

1 ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
2 สำหรับแผนความคุ้มครอง 3
3 ความรับผิดส่วนแรก (Deductible) หมายถึง ความเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับภาระตามข้อตกลงของสัญญาประกันภัย

อ้างอิง : businessplus, pobpad, petcharavejhospital, istrong, investerest

 

แนะนำผลิตภัณฑ์

Unknown Product

Unknown Product

No description available

No details available

ดูรายละเอียด
Unknown Product

Unknown Product

No description available

No details available

ดูรายละเอียด
Unknown Product

Unknown Product

No description available

No details available

ดูรายละเอียด
thumb-logo

แบบประกันออนไลน์ทั้งหมด

ดูรายละเอียด

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงการนำเสนอข้อมูลและเนื้อหาต่าง ๆ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเราถือว่าท่านยอมรับ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ประกาศความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ ของเรา