Happy Talk
Life Spiration
Live And Learn
Eco-Living
Family In Love
Eat Am Are
Get Fit
Healthy Guide
Money Session
Live Offline
Happy Plus
Happy Life Club
BLA Product
Money Session
Passion Investment
ลงทุนแบบสุขใจกับของรัก ของสะสม
ถ้าพูดถึงคำว่าการลงทุน คุณอาจจะนึกถึงหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ หรือว่าทองคำ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าการลงทุนมีอีกหลายรูปแบบ และหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนที่มีความรักความหลงใหลในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั่นคือการลงทุนในของสะสม (Passion Investment)
การลงทุนในของสะสมไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยมหรือความฟุ่มเฟือยนะครับ หากแต่มันคือการลงทุนที่ทำกำไรให้กับคุณได้จริง ๆ หากคุณมีความรู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับของสะสมสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีข้อมูลความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสิ่งนั้น ๆ และสามารถวิเคราะห์คุณค่าของสิ่งนั้นได้ คุณก็สามารถลงทุนเพื่อแสวงหาผลกำไรจากของสะสมนั้นได้
พูดง่าย ๆ ก็คือ หากของสะสมนั้นเป็นของที่อยู่ในกระแส ได้รับความนิยมสูง มีการเปลี่ยนมือได้ง่าย ก็สามารถซื้อมาขายไป ทำกำไรเพิ่มพูนได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเริ่มลงทุนในของสะสม ผมมีข้อสังเกต 2 ข้อที่คุณจำเป็นต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ
1. สำรวจตลาด ของสะสมอะไรที่ทำเงินได้
ไม่ใช่ทุกความรักหรือทุกของสะสมจะสามารถทำเงินให้คุณได้นะครับ หากว่ามันไม่มีตลาดหรือไม่มีความต้องการสิ่งของนั้นอยู่เลย (Demand) คุณก็ไม่สามารถทำเงินจากมันได้
แล้วตอนนี้อะไรคือของสะสมที่ทำเงินได้ จากการรวบรวมข้อมูลประจำปี 2562 ของ “Knight Frank” เว็บไซต์ด้านการลงทุนพบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ วิสกี้หายาก ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 582% ตามมาด้วยรถคลาสสิกที่เพิ่มขึ้น 258% และอันดับรองลงมา ได้แก่ เหรียญกษาปณ์มีมูลค่าสูงขึ้น 193% แสตมป์เพิ่มขึ้น 189% นาฬิกาข้อมือ 173% งานศิลปะ 158% ไวน์ 147% อัญมณี 112% และเพชรสีต่าง ๆ 102%
นอกเหนือจากการสำรวจของสะสมในต่างประเทศ คุณต้องไม่ลืมว่าในประเทศไทยก็มีของสะสมทำเงินเช่นกัน ส่วนมูลค่าจะสูงแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อมูล ความต้องการตลาด และคุณภาพ โดยของสะสมแบบไทย ๆ เช่น แสตมป์ โปสเตอร์ภาพยนตร์ ตลับเทป หนังสือ พระเครื่อง เครื่องใช้ในบ้าน ยานพาหนะ ของเล่นโบราณ หรือแม้กระทั่งของจำพวก แฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าแบรนด์เนมทั้งหลาย ก็เป็นของที่เปลี่ยนมือได้ง่าย และทำกำไรได้งามๆ หากรู้กระแส และจังหวะขายที่เหมาะสม
2. ทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ เฉพาะทาง
การลงทุนในของรัก ของสะสมให้ประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องมีทักษะและมีความรู้เฉพาะทางหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักตลาด รู้แหล่งสินค้า รู้จักแยกแยะของแท้ของปลอม รู้ว่าอะไรที่หายากจริง ๆ และทำราคาได้สูง รู้วิธีประเมินมูลค่า ราคาตลาด การเปลี่ยนแปลงของราคา ประวัติความเป็นมา เรื่องราว ตำนาน
โดยข้อสำคัญคือช่วงเวลาก่อนซื้อคุณต้องรู้มูลค่าที่แท้จริงของสิ่งนั้น และรู้ว่ามูลค่าของมันจะเปลี่ยนไปแค่ไหนในอนาคตด้วยปัจจัยอะไร รวมถึงรู้วิธีการ รู้แหล่งซื้อให้ได้ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเพื่อโอกาสในการทำกำไร นอกจากนั้นยังต้องเข้าใจระยะเวลาที่ต้องถือครอง และเมื่อซื้อมาแล้วของที่ซื้อมานั้น เมื่อไรคือเวลาที่ต้องขาย และคุณจะเอาไปขายให้ใครจึงจะได้ราคาดีที่สุด และไม่โดนโกงหรือโดนแกล้ง
จริงอยู่ว่าการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่แตกต่างคือหนทางหนึ่งของการกระจายความเสี่ยง แต่ไม่มีการลงทุนใดหรอกครับที่ไม่ต้องอาศัยความรู้ หากไม่มีความรู้จริง นั่นหมายความว่าคุณกำลังลงทุนอยู่บนความเสี่ยงสูงสุด หากคุณไม่อยากตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะไม่รู้จักและไม่เข้าใจในสิ่งที่ลงทุน การลงทุนในของที่รัก ของสะสมก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนะครับ เพราะความรักความหลงใหลที่คุณมีจะทำให้การลงทุนของคุณประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน และมีความสุข
ข้อมูลอ้างอิง : ที่นี่
การลงทุนในของสะสมไม่ใช่แค่เรื่องของรสนิยมหรือความฟุ่มเฟือยนะครับ หากแต่มันคือการลงทุนที่ทำกำไรให้กับคุณได้จริง ๆ หากคุณมีความรู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับของสะสมสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีข้อมูลความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสิ่งนั้น ๆ และสามารถวิเคราะห์คุณค่าของสิ่งนั้นได้ คุณก็สามารถลงทุนเพื่อแสวงหาผลกำไรจากของสะสมนั้นได้
พูดง่าย ๆ ก็คือ หากของสะสมนั้นเป็นของที่อยู่ในกระแส ได้รับความนิยมสูง มีการเปลี่ยนมือได้ง่าย ก็สามารถซื้อมาขายไป ทำกำไรเพิ่มพูนได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเริ่มลงทุนในของสะสม ผมมีข้อสังเกต 2 ข้อที่คุณจำเป็นต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ
1. สำรวจตลาด ของสะสมอะไรที่ทำเงินได้
ไม่ใช่ทุกความรักหรือทุกของสะสมจะสามารถทำเงินให้คุณได้นะครับ หากว่ามันไม่มีตลาดหรือไม่มีความต้องการสิ่งของนั้นอยู่เลย (Demand) คุณก็ไม่สามารถทำเงินจากมันได้
แล้วตอนนี้อะไรคือของสะสมที่ทำเงินได้ จากการรวบรวมข้อมูลประจำปี 2562 ของ “Knight Frank” เว็บไซต์ด้านการลงทุนพบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ วิสกี้หายาก ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 582% ตามมาด้วยรถคลาสสิกที่เพิ่มขึ้น 258% และอันดับรองลงมา ได้แก่ เหรียญกษาปณ์มีมูลค่าสูงขึ้น 193% แสตมป์เพิ่มขึ้น 189% นาฬิกาข้อมือ 173% งานศิลปะ 158% ไวน์ 147% อัญมณี 112% และเพชรสีต่าง ๆ 102%
นอกเหนือจากการสำรวจของสะสมในต่างประเทศ คุณต้องไม่ลืมว่าในประเทศไทยก็มีของสะสมทำเงินเช่นกัน ส่วนมูลค่าจะสูงแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อมูล ความต้องการตลาด และคุณภาพ โดยของสะสมแบบไทย ๆ เช่น แสตมป์ โปสเตอร์ภาพยนตร์ ตลับเทป หนังสือ พระเครื่อง เครื่องใช้ในบ้าน ยานพาหนะ ของเล่นโบราณ หรือแม้กระทั่งของจำพวก แฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าแบรนด์เนมทั้งหลาย ก็เป็นของที่เปลี่ยนมือได้ง่าย และทำกำไรได้งามๆ หากรู้กระแส และจังหวะขายที่เหมาะสม
2. ทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ เฉพาะทาง
การลงทุนในของรัก ของสะสมให้ประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องมีทักษะและมีความรู้เฉพาะทางหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักตลาด รู้แหล่งสินค้า รู้จักแยกแยะของแท้ของปลอม รู้ว่าอะไรที่หายากจริง ๆ และทำราคาได้สูง รู้วิธีประเมินมูลค่า ราคาตลาด การเปลี่ยนแปลงของราคา ประวัติความเป็นมา เรื่องราว ตำนาน
โดยข้อสำคัญคือช่วงเวลาก่อนซื้อคุณต้องรู้มูลค่าที่แท้จริงของสิ่งนั้น และรู้ว่ามูลค่าของมันจะเปลี่ยนไปแค่ไหนในอนาคตด้วยปัจจัยอะไร รวมถึงรู้วิธีการ รู้แหล่งซื้อให้ได้ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเพื่อโอกาสในการทำกำไร นอกจากนั้นยังต้องเข้าใจระยะเวลาที่ต้องถือครอง และเมื่อซื้อมาแล้วของที่ซื้อมานั้น เมื่อไรคือเวลาที่ต้องขาย และคุณจะเอาไปขายให้ใครจึงจะได้ราคาดีที่สุด และไม่โดนโกงหรือโดนแกล้ง
จริงอยู่ว่าการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่แตกต่างคือหนทางหนึ่งของการกระจายความเสี่ยง แต่ไม่มีการลงทุนใดหรอกครับที่ไม่ต้องอาศัยความรู้ หากไม่มีความรู้จริง นั่นหมายความว่าคุณกำลังลงทุนอยู่บนความเสี่ยงสูงสุด หากคุณไม่อยากตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะไม่รู้จักและไม่เข้าใจในสิ่งที่ลงทุน การลงทุนในของที่รัก ของสะสมก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนะครับ เพราะความรักความหลงใหลที่คุณมีจะทำให้การลงทุนของคุณประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน และมีความสุข
ข้อมูลอ้างอิง : ที่นี่
CONTRIBUTOR
ชวิศ เหล่าปิยสกุล