มีแผนการเงินมั่นคงได้ ถึงแม้รายได้ไม่แน่นอน

มีแผนการเงินมั่นคงได้ ถึงแม้รายได้ไม่แน่นอน

ในปัจจุบันการทำงานได้เปลี่ยนไปและมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่การทำงานประจำเพียงอย่างเดียว จึงทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ขึ้น เช่น อาชีพฟรีแลนซ์ที่รับจ้างเป็นรายครั้งหรือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ดังนั้นหากวางแผนการเงินไม่ดีพอ ก็อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินและคุณภาพชีวิตได้ ซึ่งสำหรับอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน อาจทำให้การวางแผนการเงินให้ดีเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ บทความนี้จะพามารู้จักเทคนิคการวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอนโดยเฉพาะ

เปิด 3 เทคนิคการวางแผนการเงิน สำหรับอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน

นำเสนอ 3 เทคนิคการวางแผนการเงิน ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวคุณเองได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือพนักงานขายที่มีรายได้จากค่าคอมมิชชั่น ก็สามารถนำ 3 เทคนิคนี้ไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ เพื่อสร้างวินัยการออมที่ดีและสามารถจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความมั่นคงทางการในระยะยาวได้แม้มีรายได้ที่ไม่แน่นอน

  1. ตั้งเป้าหมายการออมที่ยืดหยุ่น
    การวางแผนการเงินสำหรับผู้มีรายได้ไม่แน่นอน ต้องเริ่มจากตั้งเป้าหมายการออมที่ยืดหยุ่น แทนการกำหนดเงินออมที่ตายตัว โดยลองเปลี่ยนมาตั้งเป้าหมายการออมด้วยการกำหนดเปอร์เซ็นต์ของรายได้ เช่น ออม 20-30% ของรายได้ในแต่ละครั้ง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการติดตามรายรับรายจ่าย เพื่อให้เห็นภาพรวมการเงินและสามารถปรับแผนการออมได้ทันที ทางที่ดีให้คุณสร้างกองทุนฉุกเฉินด้วยการสะสมเงินให้ได้ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพื่อรองรับในช่วงเวลาที่ไม่มีรายได้เข้ามา และถ้าคุณยังไม่สามารถออมเงินได้ตามเป้าหมาย ก็อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะอย่าลืมว่ากุญแจสำคัญของการออมในครั้งนี้ คือ ความยืดหยุ่น ดังนั้นให้ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เพื่อไม่ให้รู้สึกกดดันหรือเครียดเกินไปเมื่อต้องออมเงินนั่นเอง

  2. การจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย
    เมื่อคุณมีรายได้ที่ไม่แน่นอน การรู้จักจัดการค่าใช้จ่ายให้ดีถือเป็นทักษะสำคัญของการวางแผนการเงิน ซึ่งการจัดการค่าใช้จ่ายให้ดีนั้น หมายถึง การจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่ายและใช้เงินอย่างมีเหตุผล แต่ไม่ได้หมายถึงให้ตัดค่าใช้จ่ายทุกอย่างออกไปทั้งหมด โดยวิธีนี้จะช่วยให้คุณมีเงินพอใช้ในยามจำเป็น ทั้งยังจะมีเหลือสำหรับการออมและการลงทุนอีกด้วย สามารถเริ่มจัดการค่าใช้จ่ายของคุณให้ดีขึ้นได้ดังนี้
    • แยกค่าใช้จ่ายจำเป็นและไม่จำเป็น
      ค่าใช้จ่ายจำเป็น : ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล
      ค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น : ค่าความบันเทิง ค่าอาหารนอกบ้าน ค่าช็อปปิงต่าง ๆ
    • หาวิธีลดค่าใช้จ่ายประจำ
      สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน คุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเดือนไหนจะมีเงินเข้ามามากหรือน้อย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ให้หาวิธีลดค่าใช้จ่ายประจำลงและตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกด้วย เช่น ลดความถี่ในการทานอาหารนอกบ้าน ยกเลิกหรือระงับบริการสมาชิกที่ไม่จำเป็น

    การจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้คุณควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น แม้จะประกอบอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอนก็ตาม นอกจากนี้ยังจะช่วยให้คุณมีเงินเหลือสำหรับการออมและการลงทุน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการวางแผนการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

  3. “เก็บก่อนใช้” เริ่มต้นหัดออมแบบมีประสิทธิภาพ
    การเก็บออมแบบเก็บก่อนใช้ เป็นข้อสำคัญของการวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เพราะวิธีนี้จะช่วยให้สร้างนิสัยการออมที่ดีและมั่นคงได้ แม้ในช่วงที่รายได้ขึ้น ๆ ลง ๆ หลักการง่าย ๆ แค่คุณหักเงินออมทันทีที่ได้รับรายได้ก่อนที่จะใช้จ่ายอย่างอื่น โดยหักออมให้เหมาะสมกับรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณ
    • ใช้หลัก 50/30/20
      หลัก 50/30/20 นี้จะช่วยแบ่งสัดส่วนเงินออมกับค่าใช้จ่ายให้สมดุลได้ โดยสามารถเริ่มต้นด้วยการออม 10-20% ของจำนวนรายได้ และค่อย ๆ ปรับขึ้นหากสามารถทำได้ และทางที่ดีสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ควรปรับสัดส่วนการออมตามรายได้ ไม่ควรเก็บออมแบบกำหนดจำนวน ถ้าเดือนไหนมีรายได้สูง ก็ให้เพิ่มสัดส่วนการออม ส่วนเดือนไหนมีรายได้น้อย ก็ปรับจำนวนเงินออมลง แต่ยังคงต้องรักษาการออมไว้แม้จะเป็นจำนวนน้อยก็ตาม
    • กระจายเงินออมไปยังวิธีต่าง ๆ
      การจะวางแผนการเงินให้ดี ต้องมีการกระจายความเสี่ยงของการออมและการลงทุนในหลาย ๆ รูปแบบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เพราะการกระจายเงินออมจะช่วยสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัย สภาพคล่อง และผลตอบแทน โดยคุณสามารถกระจายเงินออมไปยังวิธีต่าง ๆ ได้ดังนี้
      • ฝากออมทรัพย์ : เหมาะสำหรับการออมเพื่อสำรองค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เพราะมีสภาพคล่องที่สูง เข้าถึงได้ง่าย
      • เงินฝากประจำ : เหมาะกับการเก็บออมเพื่อเป้าหมายระยะสั้นถึงปานกลาง เพราะคุณจะได้ดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากออมทรัพย์ ทั้งยังมีความเสี่ยงที่ต่ำด้วย
      • กองทุนรวม : เป็นการออมเพื่อการลงทุนที่ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ ทั้งกองทุนตราสารหนี้, กองทุนหุ้น, กองทุนผสม เหมาะสำหรับการเก็บออมเพื่อการเติบโตในระยะยาว เพราะมีผู้จัดการกองทุนดูแลให้
      • หุ้น : เป็นการออมเพื่อการลงทุนที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง เติบโตได้ในระยะยาว แต่ก็มีความผันผวนที่สูงตาม เหมาะกับคนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ ดังนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดี
      • ทรัพย์สินทางเลือก : ไม่ว่าจะเป็นทองคำหรืออสังหาริมทรัพย์ หลัก ๆ คือเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ
      • ประกันสะสมทรัพย์ : เป็นการออมเงินอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการกระจายเงินออม มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับนี้ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับการลงทุนรูปแบบอื่น ๆ เหมาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เพราะมีความยืดหยุ่นในการจ่ายเบี้ย ได้ความคุ้มครองชีวิต และยังนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ประกันสะสมทรัพย์ ทางเลือกสร้างความมั่นคงของผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน

ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่เคยรู้สึกว่าการวางแผนการเงินเป็นเรื่องที่ยาก โดยเฉพาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ลองเปลี่ยนมาสร้างเงินออมด้วยการทำประกันสะสมทรัพย์ เพราะการทำประกันสะสมทรัพย์นอกจากคุณจะได้ออมเงินแล้วยังได้รับความคุ้มครองชีวิต แถมมีโอกาสสร้างผลตอบแทนในคราวเดียวกันอีก ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ประกันสะสมทรัพย์สามารถมอบให้คุณได้ ขอแนะนำแบบประกันตัวท็อป ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน

ประกันสะสมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1 (BLA Smart Saving 10/1) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าประกัน 10 1
  • จ่ายเบี้ยครั้งเดียวจบ คุ้มครองชีวิตยาว 10 ปี
  • รับเงินคืนทุกปี ปีละ 1.75%* รวมตลอดสัญญา 117.5%* (*%ของจำนวนเงินเอาประกันภัย)
  • จำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้นปีละ 50,000 บาท เหมาะสำหรับการเก็บเงินมาทั้งปีแล้วทำประกันตัวนี้ ได้เงินคืนทุกปี ความเสี่ยงต่ำ
  • ซื้อออนไลน์ได้ง่าย ๆ จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ทุกธนาคาร
  • ลดหย่อนภาษีได้อย่างคล่องตัว ใชัสิทธิได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
เพราะการวางแผนการเงินไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ที่มีรายได้ประจำเท่านั้น แม้คุณจะเป็นคนที่มีรายได้ที่ไม่แน่นอน แต่ก็สร้างความมั่นคงทางการเงินได้เช่นกัน แค่คุณต้องรู้จัก 3 เทคนิคที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเป้าหมายการออมที่ยืดหยุ่น การจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย และการเก็บก่อนใช้ เพื่อเริ่มต้นหัดออมแบบมีประสิทธิภาพ ไปพร้อม ๆ กับการทำประกันสะสมทรัพย์ ที่จะช่วยให้คุณมีวินัยในการออมที่ดีขึ้น แถมยังให้ความคุ้มครองชีวิต และสร้างผลตอบแทนให้กับคุณได้ในระยะยาวอีกด้วย สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นวางแผนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ อย่าให้รายได้ที่ไม่แน่นอนเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นคงทางการเงินของคุณ

หากคุณสนใจประกันสะสมทรัพย์ จากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม กดคำนวณเบี้ยเพื่อเลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณที่สุด และซื้อผ่านออนไลน์ได้ที่https://bla.bangkoklife.com/qxpslUPUHn


​หมายเหตุ
- โปรดทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง