สรุปครบกับกองทุน Thai ESG

​Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งมีสิทธิพิเศษให้ผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเหมือนกับการลงทุนใน RMF, SSF, SSFX หรือ LTF ที่ออกมาก่อนหน้านี้ กองทุน Thai ESG ออกมาเพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน และสินทรัพย์อื่นทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และโครงการที่เกี่ยวข้องกับด้านความยั่งยืน (sustainability) หรือด้าน ESG ผ่านกองทุนรวมที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ โดยแต่ละตัวอักษรของ ESG มีความหมาย ดังนี้

  • E : Environmental (สิ่งแวดล้อม) หมายถึง การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิลในกระบวนการผลิต การส่งเสริมการใช้รถยนต์ EV หรือลดการใช้พลังงานอย่างการเดินทางที่ไม่จำเป็นลง เป็นต้น
  • S : Social (สังคม) หมายถึง ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กร พนักงาน ผู้อยู่อาศัยรอบโรงงาน/องค์กร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในองค์กร การส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชนใกล้เคียง เป็นต้น
  • G : Governance (ธรรมาภิบาล) หมายถึง ความโปร่งใสในการดำเนินกิจการ และสามารถตรวจสอบได้

กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร?

ใครบ้างที่เหมาะกับกองทุนนี้ อะไรคือจุดเด่นจุดด้อยของ Thai ESG และเงื่อนไขแบบไหนควรลงทุน Thai ESG

กรณีที่ควรซื้อ กรณีที่ไม่ควรซื้อ
  • ต้องการลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน
  • ฐานภาษีสูงเกิน 20%
  • มีเงินเย็น ที่สามารถปล่อยทิ้งไว้นิ่งๆ ได้นาน 5 ปี
  • มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว สามารถถือกองทุนอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป
  • สนใจการลงทุน ESG Bond
  • เห็นโอกาสเติบโตในหุ้นไทย
  • ต้องการวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่ม
  • เงินได้สุทธิเกิน 150,000 บาท
  • ต้องการลดหย่อนภาษี แต่ไม่อยากซื้อ RMF เพราะต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี และต้องถือถึงอายุ 55 ปี
  • ต้องการลดหย่อนภาษี แต่ไม่อยากซื้อ SSF เพราะมองว่าการถือลงทุนถึง 10 ปี ยังยาวนานเกินไป
  • อายุเกิน 55 ปีแล้ว และกำลังวางแผนเกษียณในเร็วๆ นี้
  • มีปัญหาทางการเงิน รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย
  • ยังไม่มีเงินออมสำรองฉุกเฉิน
  • กลัวความเสี่ยงจากการลงทุน
  • ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ
  • ปีนี้ค่าลดหย่อนภาษีเพียงพอแล้ว ซื้อ SSF-RMF เต็มแล้ว
  • รายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี

ซื้อ Thai ESG 300,000 บาท ช่วยประหยัดภาษีกี่บาท?

การซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG เต็มสิทธิ์ 300,000 บาท จะสามารถช่วยเราประหยัดภาษีไปเท่าไร ถือว่าคุ้มค่าไหมกับผลตอบแทนที่ได้รับเมื่อแลกกับการต้องถือลงทุน 5 ปีเต็ม

ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจว่าการซื้อ Thai ESG จำนวน 300,000 บาท คือการที่เรานำเงินจำนวน 300,000 บาทไปหักเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เราจ่ายภาษีน้อยลงไป 300,000 บาทเลย เพราะจำนวนเงินที่ประหยัดภาษีจริง ๆ นั้น ต้องคำนวณจากเงินได้สุทธิที่เหลืออยู่ โดยดูว่าตัวเราเองมีอัตราภาษีจ่ายขั้นสุดท้ายที่เท่าไร

ฐานภาษี เงินลงทุน Thai ESG สูงสุด 300,000 บาท
ประหยัดภาษีได้ (บาท) อัตรากำไรจากเงินลงทุนทันที
5% 15,000 5.26%
10% 30,000 11.11%
15% 45,000 17.65%
20% 60,000 25.00%
25% 75,000 33.33%
30% 90,000 42.86%
35% 105,000 53.85%
อัตรากำไรจากเงินลงทุน = เงินภาษีที่ประหยัดได้ / เงินลงทุนสุทธิ

แต่หากใครที่ฐานภาษีไม่ได้สูงมาก อาจจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งเป้าหมายการเงินของตัวเอง เพราะ Thai ESG เป็นการลงทุนระยะยาว เงินที่นำมาซื้อควรเป็นเงินเย็น สามารถเก็บไว้ได้โดยไม่รีบร้อนนำมาใช้ และอย่าลืมคิดเรื่องค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหน่วยลงทุน และความเสี่ยงจากการลงทุนด้วย

กองทุน Thai ESG เทียบกับ SSF RMF ต่างกันอย่างไร?

ความเหมือนของ Thai ESG กับ SSF และ RMF ถือเป็นกองทุนรวมลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน แต่มีจุดที่แตกต่างกันหลัก ๆ ดังนี้

  Thai ESG SSF RMF
นโยบายลงทุน กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทยที่เข้าเกณฑ์ ESG กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ
% ลดหย่อนภาษี ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี
สิทธิประโยชน์ทางภาษี ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 300,000 บาท ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
ซื้อได้สูงสุด ไม่เกิน 300,000 บาท ไม่เกิน 200,000 บาท และรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้อง ไม่เกิน 500,000 บาท ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ
ระยะเวลาลงทุน 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ ไม่บังคับซื้อทุกปี จนถึงอายุ 55 ปี และครบ 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีหรือปีเว้นปี

กองทุน Thai ESG มีเงื่อนไขลดหย่อนภาษีอะไรบ้าง?

กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 300,000 บาท โดยไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ

  • วงเงินลงทุนของ Thai ESG จะไม่ถูกนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ได้แก่ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่ปัจจุบันกำหนดเพดานลดหย่อนภาษีรวมกันได้ไม่เกิน 500,000 บาท
  • เท่ากับว่าเราจะได้วงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมจาก Thai ESG ไปเลย 300,000 บาท และเมื่อนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ก็จะลดหย่อนได้สูงสุดถึง 900,000 บาท
  • ระยะเวลาการลงทุน Thai ESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 5 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน ไม่ใช่นับแบบปีปฏิทิน) ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น และไม่บังคับว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี เช่น ถ้าซื้อ Thai ESG ในวันที่ 25 ธันวาคม 2024 วันที่ครบกำหนด 5 ปี คือวันที่ 25 ธันวาคม 2029 แปลว่าเราจะขายกองทุนโดยไม่ผิดเงื่อนไขได้ในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 26 ธันวาคม 2029

อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นการลงทุนย่อมมีโอกาสที่จะได้กำไรหรือขาดทุน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีใด ๆ ก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน ควรรู้เท่าทันทุกความเสี่ยง เพื่อช่วยให้คุณรู้ว่าเหมาะกับการลงทุนในทรัพย์สินแบบใด

อ้างอิง: K Wealth, Finnomena.com