Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งมีสิทธิพิเศษให้ผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งเหมือนกับการลงทุนใน RMF, SSF, SSFX หรือ LTF ที่ออกมาก่อนหน้านี้ กองทุน Thai ESG ออกมาเพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน และสินทรัพย์อื่นทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และโครงการที่เกี่ยวข้องกับด้านความยั่งยืน (sustainability) หรือด้าน ESG ผ่านกองทุนรวมที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ โดยแต่ละตัวอักษรของ ESG มีความหมาย ดังนี้
ใครบ้างที่เหมาะกับกองทุนนี้ อะไรคือจุดเด่นจุดด้อยของ Thai ESG และเงื่อนไขแบบไหนควรลงทุน Thai ESG
กรณีที่ควรซื้อ | กรณีที่ไม่ควรซื้อ |
---|---|
|
|
การซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG เต็มสิทธิ์ 300,000 บาท จะสามารถช่วยเราประหยัดภาษีไปเท่าไร ถือว่าคุ้มค่าไหมกับผลตอบแทนที่ได้รับเมื่อแลกกับการต้องถือลงทุน 5 ปีเต็ม
ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจว่าการซื้อ Thai ESG จำนวน 300,000 บาท คือการที่เรานำเงินจำนวน 300,000 บาทไปหักเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เราจ่ายภาษีน้อยลงไป 300,000 บาทเลย เพราะจำนวนเงินที่ประหยัดภาษีจริง ๆ นั้น ต้องคำนวณจากเงินได้สุทธิที่เหลืออยู่ โดยดูว่าตัวเราเองมีอัตราภาษีจ่ายขั้นสุดท้ายที่เท่าไร
ฐานภาษี | เงินลงทุน Thai ESG สูงสุด 300,000 บาท | |
---|---|---|
ประหยัดภาษีได้ (บาท) | อัตรากำไรจากเงินลงทุนทันที | |
5% | 15,000 | 5.26% |
10% | 30,000 | 11.11% |
15% | 45,000 | 17.65% |
20% | 60,000 | 25.00% |
25% | 75,000 | 33.33% |
30% | 90,000 | 42.86% |
35% | 105,000 | 53.85% |
อัตรากำไรจากเงินลงทุน = เงินภาษีที่ประหยัดได้ / เงินลงทุนสุทธิ |
แต่หากใครที่ฐานภาษีไม่ได้สูงมาก อาจจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งเป้าหมายการเงินของตัวเอง เพราะ Thai ESG เป็นการลงทุนระยะยาว เงินที่นำมาซื้อควรเป็นเงินเย็น สามารถเก็บไว้ได้โดยไม่รีบร้อนนำมาใช้ และอย่าลืมคิดเรื่องค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหน่วยลงทุน และความเสี่ยงจากการลงทุนด้วย
ความเหมือนของ Thai ESG กับ SSF และ RMF ถือเป็นกองทุนรวมลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน แต่มีจุดที่แตกต่างกันหลัก ๆ ดังนี้
Thai ESG | SSF | RMF | |
---|---|---|---|
นโยบายลงทุน | กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทยที่เข้าเกณฑ์ ESG | กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ | กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ |
% ลดหย่อนภาษี | ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี | ||
สิทธิประโยชน์ทางภาษี | ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 300,000 บาท | ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท | ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ |
ซื้อได้สูงสุด | ไม่เกิน 300,000 บาท | ไม่เกิน 200,000 บาท และรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้อง ไม่เกิน 500,000 บาท | ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ |
ระยะเวลาลงทุน | 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ | 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ ไม่บังคับซื้อทุกปี | จนถึงอายุ 55 ปี และครบ 5 ปี นับจากวันที่ซื้อ ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีหรือปีเว้นปี |
กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 300,000 บาท โดยไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นการลงทุนย่อมมีโอกาสที่จะได้กำไรหรือขาดทุน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีใด ๆ ก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน ควรรู้เท่าทันทุกความเสี่ยง เพื่อช่วยให้คุณรู้ว่าเหมาะกับการลงทุนในทรัพย์สินแบบใด
อ้างอิง: K Wealth, Finnomena.com