อนาคตยังอีกไกล...แต่โรคร้ายแรงอาจมาเร็วกว่าที่คิด

อนาคตยังอีกไกล...แต่โรคร้ายแรงอาจมาเร็วกว่าที่คิด

ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การวางแผนชีวิตและการเงินอย่างรอบคอบจึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนในวัย 25-45 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องต่อสู้กับสถานการณ์ของค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อม ๆ กับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

สิ่งที่น่ากังวล คือ โลกที่เปลี่ยนไปและมลภาวะที่เพิ่มมากขึ้น จึงกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายแรงกันมากขึ้น นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนที่ก็เปลี่ยนไป ก็สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคร้ายแรงได้ไม่ต่างกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ขาดการออกกำลังกาย หรือมีความเครียดสะสม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวเร่งให้เกิดโรคร้ายแรงได้เร็วขึ้นแต่เกิดในวัยที่น้อยลง

ด้วยเหตุนี้ "ประกันโรคร้ายแรง" จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนในช่วงวัยทำงานที่กำลังสร้างอนาคตให้ตัวเองอย่างวัย 25-45 ปี เพราะการมีประกันโรคร้ายแรง ไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลในการรักษาโรคร้ายแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการใช้ชีวิต และสามารถวางแผนอนาคตได้อย่างไร้กังวล พร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่ไม่อาจจะคาดเดาได้

ในบทความนี้จะพาไปดูว่าทำไมการมีประกันโรคร้ายแรงถึงสำคัญ แล้วทำไมถึงต้องทำในช่วงอายุ 25-45 ปี ถ้าคุณอยากจะทราบคำตอบแล้ว ก็มาเริ่มต้นทำความรู้จักกับประกันโรคร้ายแรงไปพร้อม ๆ กันได้เลย!

5 ข้อดีของการมีประกันโรคร้ายแรง

ประกันโรคร้ายแรง คือ ประกันที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันตรวจพบว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น โรคมะเร็ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของระยะที่ตรวจพบโรค โดยหากตรวจพบในขณะที่กรมธรรม์ยังไม่พ้นระยะเวลาไม่คุ้มครอง บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินก้อน เพื่อให้ผู้เอาประกันนำเงินก้อนนั้นไปใช้จ่ายในการรักษาตัวหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษาได้

ดังนั้นการทำประกันโรคร้ายแรง จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ที่จะสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านการเงินให้กับตัวคุณหรือครอบครัวคุณ เมื่อเกิดโชคร้ายป่วยเป็นโรคร้ายแรงและต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งหลายคนอาจจะยังมีชุดความคิดเดิม ๆ ที่ว่า การจ่ายเบี้ยประกันโรคร้ายแรงเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การพิจารณาทำประกันโรคร้ายแรงกลับมีประโยชน์มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น

  1. ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
    อย่างที่รู้ ๆ กันว่าค่ารักษาพยาบาลก็มีราคาที่สูงขึ้นอยู่ทุกปี ๆ ยิ่งเป็นโรคร้ายแรงด้วยแล้ว ค่ารักษาพยาบาลก็แรงไม่ต่างกัน ซึ่งนี่อาจเป็นภาระทางการเงินอย่างหนักสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งประกันโรคร้ายแรงจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างมาก ทำให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การรักษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย หรือต้องนำเงินเก็บทั้งชีวิตมาใช้จนหมด

  2. เพิ่มโอกาสในการรักษา ให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
    การมีประกันโรคร้ายแรง จะช่วยให้คุณมีทางเลือกในการรักษามากขึ้น สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพได้มากกว่า โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และยังสามารถเลือกโรงพยาบาลที่ต้องการเข้ารักษาได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำหรือการรักษาด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมในประกันสุขภาพทั่วไป ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้คุณมีโอกาสรักษาให้หายและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

  3. ช่วยจัดการเรื่องการเงิน ให้วางแผนได้ดีขึ้น
    ประกันโรคร้ายแรง ถือเป็นประกันสุขภาพแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงิน หากเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงขึ้นมาในวันใดวันหนึ่ง โดยไม่ต้องกระทบกับเงินออมหรือการลงทุนที่วางแผนไว้ เมื่อคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง บริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนให้คุณตามวงเงินในกรมธรรม์ที่ทำประกันไว้ ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือชดเชยรายได้ที่อาจสูญเสียไประหว่างการรักษาได้เลย

  4. ได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม
    ประกันโรคร้ายแรงส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงหลายประเภท ไม่เพียงแต่มะเร็งเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ทำให้คุณได้รับความคุ้มครองรอบด้าน ไม่ต้องกังวลหากวันใดวันนึงเกิดโชคร้ายตรวจพบโรคร้ายแรงขึ้นมา

  5. มีประกันโรคร้ายแรงไว้อุ่นใจกว่า
    เพราะไม่มีใครรู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร การทำประกันโรคร้ายแรงก็จะช่วยคลายความกังวลด้านภาระทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณป่วยเป็นโรคร้ายแรงแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งคุณจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขขึ้น มั่นใจมากขึ้น และไม่ต้องกังวลว่าหากเจ็บป่วยขึ้นมา จะเป็นภาระให้กับครอบครัวหรือต้องสูญเสียทรัพย์สินที่สะสมมาทั้งชีวิต ซึ่งความสบายใจนี้มีค่ามากกว่าตัวเลขใด ๆ เสียอีก

25-45 ปี ช่วงวัยที่ดี ที่ต้องเริ่มมีประกันโรคร้ายแรง

แม้หลาย ๆ คนจะมองว่าการทำประกันโรคร้ายแรง ควรเริ่มทำเมื่อมีอายุมากขึ้นและกำลังเข้าสู่วัยชรา แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงอายุที่เหมาะสมต่อการทำประกันโรคร้ายแรงที่สุด คือ ช่วงอายุ 25-45 ปี เพราะเป็นช่วงวัยที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว มองไกลถึงอนาคต มีความรับผิดชอบมากขึ้น และยังมีพลังในการทำงานเต็มที่

ดังนั้นการมองการณ์ไกลและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตด้วยการทำประกันโรคร้ายแรง จึงถือเป็นการวางแผนชีวิตและวางแผนการเงินที่รอบคอบที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัย 25-45 ปี ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะ

  1. ยิ่งโตยิ่งต้องวางแผนและยิ่งต้องมีความรับผิดชอบ
    ผู้คนในวัยนี้มักจะมีภาระทางการเงินที่มากกว่าวัยอื่น เพราะกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว วางแผนความมั่นคงให้กับตัวเอง บางคนอาจจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ลองคิดดูหากวันหนึ่งคุณเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงแบบกะทันหันขึ้นมา คุณจะทำอย่างไร? เพราะรายได้ของคุณจะหยุดชะงักไป แต่รายจ่ายไม่ได้หยุดชะงักตาม แต่ถ้าคุณมีประกันโรคร้ายแรง คุณจะมีตัวช่วยในการแบ่งเบาภาระทางการเงินยามฉุกเฉินไปได้มากเลยทีเดียว

  2. ยิ่งทำประกันโรคร้ายแรงไวเท่าไหร่ ยิ่งคุ้มค่าเท่านั้น
    การเริ่มต้นทำประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่อายุยังน้อย เบี้ยประกันจะถูกกว่า เพราะบริษัทประกันจะถือว่าคุณมีความเสี่ยงที่ต่ำ ดังนั้นยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะได้รับความคุ้มครองที่ยาวนานมากขึ้นเท่านั้น เริ่มทำตอนนี้ยังไงก็ดีกว่ารอให้อายุมากหรือมีความเสี่ยงแล้วถึงทำ ซึ่งถ้าถึงวันนั้นอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้ ใครจะรู้

  3. แม้จะดูแลสุขภาพให้ดีอย่างไร ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ควบคุมไม่ได้อยู่ดี
    อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น ว่าโลกมีการเปลี่ยนไปมาก ผู้คนในปัจจุบันก็มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเก่า ทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคร้ายแรงมากขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นโรคร้ายแรงอย่างไร สุดท้ายแล้วก็ยังมีปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้อย่างเช่น สภาพแวดล้อมและมลภาวะต่าง ๆ ที่ทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงอยู่ดี มากไปกว่านั้นในปัจจุบันก็เริ่มมีคนป่วยเป็นโรคร้ายแรงมากขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะทำงานหนักและเครียดจนเกินไปด้วย

  4. ช่วงวัย 25-45ปี ยังแข็งแรง ผ่านเงื่อนไขได้ง่ายกว่า
    ในช่วงวัยนี้ หากใครยังแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว ยิ่งควรทำประกันโรคร้ายแรงเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะจะง่ายต่อการตอบคำถามสุขภาพและได้รับการอนุมัติที่ง่ายกว่า ถ้ารอจนอายุมากกว่านี้ หรือมีโรคประจำตัวขึ้นมา คุณอาจจะต้องจ่ายเบี้ยที่แพงขึ้น หรือไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างที่ควรจะเป็น

  5. เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ สบายใจยาวถึงอนาคต
    การทำประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้คุณวางแผนอนาคตได้ดีขึ้น เพราะการมีหลักประกันด้านสุขภาพ จะทำให้คุณสามารถวางแผนการเงินและวางแผนชีวิตในระยะยาวได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าโรคร้ายจะมาทำลายความฝันและแผนชีวิตที่วางไว้ และไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คุณจะรู้สึกพร้อมและมั่นใจว่าสามารถรับมือได้ ทั้งในแง่ของการรักษาพยาบาลและการจัดการทางการเงิน

  6. นำไปลดหย่อนภาษีได้
    ประกันโรคร้ายแรง ถือเป็นประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้* ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี ทั้งนี้เมื่อรวมเบี้ยประกันชีวิตตามที่จ่ายจริงทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ดังนั้นคนในช่วงอายุ 25-45 ปี ที่ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานและมีรายได้ที่ต้องเสียภาษี การทำประกันก็จะสามารถช่วยให้คุณมีเงินเหลือมากขึ้น และนำไปวางแผนการเงินในด้านอื่น ๆ ได้นั่นเอง

  7. สถิติผู้ป่วยที่มากขึ้น แต่เกิดในช่วงอายุที่น้อยลง
    จากสถิติผู้ป่วย 3 โรคร้ายแรงยอดฮิต ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเหลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ปี พ.ศ. 2566 ของกรมการแพทย์ องค์การอนามัยโลก (WHO) และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น และยังพบว่ามีอัตราการเกิดในคนอายุน้อยเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถวางใจและมั่นใจได้เลย ว่าวันหนึ่งคุณจะไม่โชคร้ายตรวจเป็นโรคร้ายแรงเหล่านี้ เพราะฉะนั้นก็ป้องกันไว้ด้วยการทำประกันโรคร้ายแรง ดีกว่าเป็นแล้วมาหาทางแก้ทีหลัง

ประกันโรคร้ายแรง “สุขภาพ สุขสันต์” คุ้มครองครอบคลุม 50 โรคร้ายแรง ให้คุณอุ่นใจได้มากกว่า

วางแผนชีวิตและการเงินของคุณให้พร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต ด้วยการทำประกันโรคร้ายแรง “สุขภาพ สุขสันต์” (ออนไลน์) จากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) จะต้องเจอโรคร้ายแค่ไหนก็ไม่หวั่น ด้วย 4 แผนความคุ้มครอง ให้คุณเลือกให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์

  • คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงอื่น ๆ รวม 50 โรคร้ายแรง จาก 8 กลุ่มโรคสำคัญที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทยในปัจจุบัน
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 1 : โรคที่เกี่ยวกับมะเร็งและเนื้องอกในร่างกาย
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 2 : โรคที่เกี่ยวกับหัวใจ หลอดเลือด และอวัยวะในช่องอก
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 3 : โรคที่เกี่ยวกับเนื้อสมอง เส้นเลือดสมอง และการทำงานของระบบประสาท
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 4 : โรคที่เกี่ยวกับไต
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 5 : โรคที่เกี่ยวกับตับและอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 6 : โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 7 : โรคที่เกี่ยวกับอุบัตเหตุและภาวะทุพพลภาพอย่างรุนแรง
    • โรคร้ายแรงกลุ่มที่ 8 : โรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้ออย่างรุนแรงในอวัยวะต่าง ๆ
  • รับเงินก้อนใหญ่สูงสุดถึง 3,000,000 บาท 1 ทันที เมื่อตรวจพบโรคร้าย
  • มีความคุ้มครองชีวิต 50,000 บาททุกแผนประกันชีวิต
  • รับเงินก้อนใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล และเงินสำรองการดำรงชีวิต ทันทีที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง 2
  • เบี้ยประกันภัยคงที่ตลอดอายุสัญญา ไม่ปรับเพิ่มเมื่ออายุมากขึ้น
  • ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบ 4 คำถามสุขภาพง่าย ๆ
  • อายุที่รับประกัน 20-55 ปี
  • จ่ายเบี้ยเพียง 10 ปี แต่คุ้มครองยาวนานถึง 15 ปี
  • ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้*

การลงทุนทำประกันโรคร้ายแรบในวัย 25-45 ปีนี้ ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับอนาคตของคุณ ให้คุณสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องหวั่นวิตกกับค่ารักษาพยาบาลที่อาจสูงลิบเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมา

เพราะในยุคที่โรคภัยไม่เลือกวัย การเตรียมพร้อมไว้ก่อนจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด อย่ารอให้สายเกินไป มาเริ่มต้นวางแผนและเลือกประกันโรคร้ายแรงที่เหมาะกับคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้กับชีวิตและสุขภาพของคุณในระยะยาว

หากคุณสนใจประกันโรคร้ายแรง “สุขภาพ สุขสันต์” (ออนไลน์) จากกรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) และต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเลือกแผนประกันที่เหมาะกับคุณที่สุด ก็สามารถเข้ามาดูรายละเอียด กดคำนวณเบี้ยเปรียบเทียบแต่ละแผนความคุ้มครอง และสมัครผ่านออนไลน์ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ที่ https://bla.bangkoklife.com/IOYNC6Yd6Q

จงจำไว้เสมอว่าสุขภาพที่ดีคือรากฐานของชีวิตที่มีความสุข และการมีหลักประกันที่เหมาะสมก็จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร คุณก็จะพร้อมและมั่นใจในการดำเนินชีวิตได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลอีกต่อไปนั่นเอง

หมายเหตุ
- โปรดทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- การแถลงสุขภาพเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณารับประกันภัย หรือพิจารณาจ่ายเงินตามสัญญาประกันภัย ผู้ซื้อควรทําความเข้าใจในรายละเอียด เงื่อนไข ความคุ้มครอง และข้อยกเว้น ก่อนการตัดสินใจทําประกันภัยทุกครั้ง
* เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด
1 ความคุ้มครอง 3 ล้านบาท เฉพาะผู้เอาประกันภัยที่สมัคร แผน 4 เท่านั้น
2 คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงหลังจาก 90 วัน นับจากวันเริ่มสัญญา และไม่ใช่โรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน
 

อ้างอิง : ddc.moph.go.th, bumrungrad.com, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ