It’s Time To Move On
นับว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญอีกหน้าหนึ่งของประเทศไทย และโลก กับการระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่ไม่เพียงสร้างผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบเศรษฐกิจ แต่ยังเข้ามาทำลาย “วิถีการดำเนินชีวิต” ของเราทุก ๆ คน ทั้งการรักษาระยะห่าง Social Distancing การ Lock Down ปิดเมือง ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน การทำงานแบบ Work From Home หรือซ้ำร้ายไปกว่านั้นบางคนต้องตกงาน ขาดรายได้ เผชิญภาวะหนี้สิน ต้องเจอความเครียดต่าง ๆ นานา เรียกได้ว่าไม่มีใครหลีกเลี่ยงผลกระทบไปได้เลย
แต่ถึงอย่างไรก็คงจะไม่เชยเกินไปถ้าจะพูดคำว่า “ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอมา” อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ใครที่กล้าเดินไปข้างหน้า เลือกที่จะไม่จมอยู่กับปัญหา ก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน และ Happy Life ก็ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมแรงกายเติมแรงใจให้กับทุกคน และ Move On จากวิกฤตครั้งนี้ไปพร้อม ๆ กัน
รู้ก่อน Move On โลกยุคหลังโควิด จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
มีนักวิชาการหลายคนเปรียบเทียบว่า ถ้าโควิด-19 หยุดการระบาด จะเทียบเท่ายุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยุคหลังสงครามเย็นเลยทีเดียว เพราะวิถีชีวิตของคนทั้งโลกจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน เราลองมาดูกันเล่นๆ ว่าจะมีอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างหลังจากนี้
เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอ เรียนรู้วิธี Move On
และนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงเพียงเสี้ยวเล็ก ๆ จาก โควิด-19 ที่เราทุกคนอาจจะต้องเจอในอนาคตอันใกล้นี้ (หรือตอนนี้ใครหลายคนก็เจอแล้ว) เพราะฉะนั้นเรามาเริ่มรับมือความเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตของเราได้เดินต่อไปข้างหน้า ในเมื่อชีวิตยังไม่สิ้นก็ลองมาดิ้นกันอีกสักครั้ง!!
สวมบทคนใจเพชร: ท่ามกลางปัญหาที่ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด เรื่องจิตใจเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับที่ 1 ถึงแม้จะท้อแต่ต้องไม่ถอย เหนื่อยก็พักแต่ต้องกลับมาสู้ใหม่ หลอมหัวใจให้เป็นเพชร เพราะเพชรแม้อยู่ในที่มืดมิดก็จรัสแสงได้ด้วยตัวเอง ไม่แตกหัก ไม่มอดไหม้ ถ้าปรับจูนใจได้แล้ว ไม่ว่าปัญหายาก และใหญ่แค่ไหน เชื่อว่าทุกคนต้องผ่านมันไปได้แน่นอน ที่สำคัญห้ามสูญเสียหัวใจแบบนี้ไปเด็ดขาด
แพ้ให้เป็น ยอมรับให้ได้: ในทุกวิกฤตย่อมเกิดความสูญเสีย อยู่ที่เสียมากหรือเสียน้อย พยายามกลั้นใจคิดในแง่บวกเข้าไว้ "สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ" หรือถ้าเอาคำพระสอนก็คือ "มันไม่มีอะไรคงทนตลอดไป" ลองใส่เกียร์ว่างแล้วปล่อยมือจากความสำเร็จเดิม อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่แน่บางทีเราอาจได้พบกับจุดหมายใหม่ที่ไม่เคยคิดมาก่อนก็ได้
ครูที่ดีที่สุด คือความผิดพลาด: ท่องคำนี้ให้ขึ้นใจ ความผิดพลาดครั้งสุดท้ายที่เราทำ คนที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้นั้น ไม่ใช่ว่าเขามองเห็นข้อดีในยามคับขัน แต่เขาต้องใช้ความพยายามในการสร้างโอกาส เพราะฉะนั้นอย่ามองหาข้อดีจากวิกฤต แต่เลือกมองหาข้อดีจากตัวเอง เรียนรู้จากข้อเสียข้อผิดพลาด และต่อยอดเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเอง เพราะการเรียนรู้ และการปรับตัวอยู่เสมอ คือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของคนที่จะชนะวิกฤติในครั้งนี้ และครั้งต่อไป
เติมกำลังใจกันและกัน: โทรศัพท์ยังต้องชาร์จแบต รถยังต้องเติมน้ำมัน แล้วนับประสาอะไรกับใจของคน ในวิกฤตสิ่งสำคัญที่ทำให้เราผ่านพ้นไปได้ด้วยดี อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องรอโอกาส ไม่ต้องฝึกฝน ก็คือการส่งกำลังใจดี ๆ ให้กันและกันนั่นเอง ส่งให้ครอบครัว คนที่รัก คนรอบข้าง ช่วยกันประคับประคองหัวใจในวันที่เหนื่อยล้า ไม่ซ้ำเติมเมื่อเจอปัญหา และเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน.. ท้องฟ้าหลังพายุใหญ่ ย่อมงดงามเสมออย่างแน่นอน