เลี้ยงลูกอย่างไรให้กล้าวางใจพ่อแม่
สิ่งที่พ่อแม่หลาย ๆ คนอาจจะเคยพบเจอ คือการที่ลูกไม่กล้าปรึกษาหรือเล่าเรื่องปัญหาสำคัญให้ฟัง และลูกต้องนำปัญหาเหล่านั้นไปปรึกษากับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน จนบางครั้งกว่าที่พ่อแม่อย่างเราจะรับรู้ปัญหานั้นก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว นั่นเป็นเพราะลูกยังไม่สามารถไว้ใจหรือเชื่อใจเราได้ในบางมุม วันนี้เราจึงอยากพาพ่อแม่ทุกคนมาหาทางออกของเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กันว่าจะทำอย่างไรให้ลูกไว้ใจพ่อแม่และกล้าที่จะเข้ามาปรึกษา
เปิดใจให้กว้าง
เมื่อพ่อแม่กล้าเปิดใจกับลูก ลูกก็จะกล้าพูดคุยกับพ่อแม่ การเปิดใจจึงเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูบานแรกเพื่อให้ลูกมีความกล้าที่จะเข้ามาปรึกษากับพ่อแม่มากขึ้น พ่อแม่ต้องพยายามทำความเข้าใจลูก ใส่ใจกับปัญหาของลูกให้ลึกซึ้ง และที่สำคัญไม่ควรนำเอาความคิดเห็นของผู้ใหญ่มาตัดสินเรื่องต่าง ๆ ของลูก ควรเสนอแนวทางที่เหมาะสมในแบบต่าง ๆ เพื่อให้ลูกได้นำไปตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง
ให้เกียรติตัวตนที่ลูกเป็น
การให้โอกาสลูกในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองบ้างก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกเติบโตได้ เมื่อลูกมีเรื่องหรือปัญหาต่าง ๆ มาปรึกษา การชี้แนะแนวทางและคอยอยู่เคียงข้างลูก เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกจะช่วยให้เขาสามารถตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจและมีความไว้ใจพ่อแม่มากขึ้น
รักษาสัญญาสร้างความน่าเชื่อถือ
การรักษาสัญญาเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนเป็นพ่อแม่ หากพ่อแม่ไม่สามารถรักษาสัญญาที่มีให้กับลูกไว้ได้ความไว้ใจจากลูกก็จะลดน้อยลง ดังนั้นพ่อแม่ควรทำตามสิ่งที่พูดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูก
ความลับของลูกคือความลับของเรา
เมื่อลูกยิ่งเติบโตขึ้นก็ยิ่งมีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น บางครั้งการที่ลูกพยายามเล่าปัญหาหรือสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้พ่อแม่ฟัง และลูกไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้ พ่อแม่ก็ต้องเก็บเรื่องราวของลูกให้เป็นความลับ เพราะการที่พ่อแม่เอาปัญหาของลูกไปปรึกษาคนอื่น อาจจะทำให้ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไปและส่งผลให้ความเชื่อใจที่มีทั้งหมดหายไปและไม่อยากที่จะปรึกษาพ่อแม่อีก
คิดในมุมของลูก
การทำความเข้าใจในปัญหาที่ลูกต้องเผชิญที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต หากเข้าใจได้อย่างถ่องแท้จะนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูกได้ เพราะลูกจะรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของพ่อแม่ช่วยให้ลูกกล้าเปิดใจมากขึ้น
สอนเรื่องความเท่าเทียม
ในยุคปัจจุบันเรื่องความเท่าเทียมเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ ดังนั้นจึงควรสอนเรื่องของความเท่าเทียมให้กับลูก สอนให้ลูกรู้จักที่จะยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่น และไม่พูดเปรียบเทียบลูก กับใครก็ตาม เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่าตัวเองและไม่อยากคุยกับพ่อแม่อีกเลย
การที่พ่อแม่และลูกได้พยายามเปิดพื้นที่ให้กันและกันจะช่วยให้ได้รู้ความเป็นไปของทุกคนในบ้าน เป็นการสร้างความสนิทสนม ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น เมื่อทุกคนในบ้านเชื่อใจกัน พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ก็จะทำให้เด็ก ๆ หรือคนในบ้านเมื่อมีปัญหาที่ไม่สบายใจ เลือกมาปรึกษากับคนในครอบครัวมากกว่าจะไปปรึกษาเพื่อน ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง พ่อแม่ก็สบายใจได้ว่าลูกจะสามารถจัดการปัญหาได้ทุกเรื่องอย่างดีที่สุด