​

ทุกวันนี้คุณดื่มน้ำเพราะ คอแห้ง กระหายหรือดื่มเพราะ...?

ขอเดาคำตอบก่อนว่าก็ดื่มเพราะ รู้สึกหิวนํ้า คอแห้ง กระหาย นั่นแหละ และสาเหตุนี้แหละที่ทำให้ บางคนก็ดื่มนํ้าน้อยเกินไปหรือมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่รู้ว่า...ปริมาณที่เหมาะสมคือเท่าไร ทั้งๆ ที่ นํ้ามีความสำคัญต่อกระบวนการทำงานภายในร่างกาย วันนี้เราก็เลยจะชวนทุกคนมาดื่ม...ให้กับสุขภาพ

​	​	​
ดื่มที่ 1 : ดื่มเท่าไหร่ ร่างกายคนเรามีความต้องการน้ำในปริมาณที่แตกต่างกัน โดยคํานวณได้จากสูตรนี้ น้ำหนักตัว x 33 ผลที่ได้จะมีหน่วยเป็น cc ที่หมายถึงปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน เช่น คุณมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม 60 x 33 = 1980 ปริมาณที่ควรดื่มต่อวัน คือ 1.98 ลิตร การดื่มน้ำน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ จะทำให้การไหลเวียนของเลือดทำงานได้ไม่ดี อาจส่งผลต่อสุขภาพในด้านอื่นตามมา	ดื่มที่ 2 : ดื่มตอนไหน การดื่มน้ำในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย • หลังตื่นนอน 1-2 แก้ว ช่วยกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น • ก่อนอาหารมื้อละ 1 แก้ว ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น • หลังมื้ออาหารมื้อละ 1 แก้ว และอีก 1 แก้ว หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหาร • ก่อนนอน 1 แก้ว เพื่อชดเชยของเหลวที่จะสูญเสียในระหว่างการนอน	ดื่มที่ 3 : ดื่มน้ำอะไรดี เรื่องนี้สงสัยกันเยอะว่า ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดีกว่ากัน เลยต้องขอบอกว่าทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็นมีประโยชน์ต่างกัน เช่น ขณะที่เราออกกำลังกาย อุณหภูมิร่างกายจะสูง การดื่มน้ำเย็นจะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายไม่ให้สูงเกินไปได้ดีกว่า ​ ส่วนการดื่มน้ำอุ่น ช่วยเสริมกระบวนการย่อยและกำจัดของเสีย ระบบการไหลเวียนเลือด ทำให้ร่างกายกระหายน้ำน้อยลง ซึ่งอาจเป็นอันตรายในวันที่ร่างกายสูญเสียน้ำและต้องการลดอุณหภูมิในร่างกาย

​
 

การดื่มนํ้าแม้จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่การดื่มนํ้าครั้งละมากๆ หรือดื่มมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้เรียกว่า อาการนํ้าเป็นพิษ ทำให้เลือดเจือจาง เกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ จึงควรดื่มครั้งละน้อยๆ แต่ให้ดื่มบ่อยๆ ด้วยการจิบแทน เพื่อความสุขและสุขภาพที่ดีของตัวเอง