​

ไม่รู้ทำไม หนังท้องตึงทีไร หนังตาก็หย่อนทุกที...จริงๆ ไม่ได้ขี้เกียจนะ แต่ร่างกายมันเป็นไปเอง ถ้าใครมีอาการแบบนี้หลังจากกินอาหาร มั่นใจได้เลยว่าเป็น Food Coma ซะแล้ว! แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งตกใจไป อาการนี้ไม่ได้เป็นเชื้อโรคหรือไวรัสที่มีผลร้ายแรงต่อชีวิต แต่เป็นอาการที่ทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการซึม ง่วงหงาวหาวนอน ส่งผลต่อการทำงานของสมอง กลายเป็นคนคิดช้า เฉื่อยชา หรือถ้าขับรถก็อาจจะพลอยหลับใน จนเกิดอุบัติร้ายแรง เพราะว่าง่วงหนักมาก

อาการหนังท้องตึง หนังตาหย่อน มีการวิจัยออกมาว่าเมื่อกินอย่างเต็มอิ่ม ระบบย่อยอาหารจะจัดการย่อยอาหารที่เรากินเข้าไปให้หมด ซึ่งกระบวนการย่อยนี้ใช้พลังงานมาก เลือดต้องมาไหลเวียนอยู่ที่กระเพาะอาหารเป็นหลัก และหมุนเวียนไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายน้อยลง โดยเฉพาะส่วนสมอง จึงทำให้รู้สึกง่วงซึม เฉื่อยชา บางกรณีที่ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลสูงร่างกายจึงผลิตอินซูลินออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ก็มีผลต่อความรู้สึกสดชื่นหรืออ่อนเพลียได้เช่นกัน

​

กินอาหารแต่ละมื้อให้พอดี ลดอาหารจำพวกแป้งย่อยยาก เช่น อาหารชุบแป้งทอด เส้นพาสต้า ก๋วยเตี๋ยว และขนมปังขัดสี แล้วหันมากินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอย่างข้าวซ้อมมือ, ขนมปังโฮลวีท, ธัญพืช, เมล็ดถั่ว, ซึ่งมีกากใยสูง, ทานผัก เช่น ถั่วลันเตา, ผักกาด, กะหล่ำปลี, สาหร่าย, เห็ด, แตงกวา, หัวหอม, มะเขือเทศ, แครอท, ฟักทอง ที่ให้พลังงานแก่ร่างกายในระยะยาว แถมเส้นใยอาหาร จะเป็นตัวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ขึ้นสูงมากและลงต่ำมาก

เปลี่ยนจากขนม ของหวานและเครื่องดื่มเติมน้ำตาลทั้งหลาย เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแทน นอกจากนี้ระหว่างทานอาหาร อย่ารีบเคี้ยวแล้วกลืน ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพื่อลดการใช้พลังงานการย่อยในกระเพาะอาหาร และดื่มน้ำให้เพียงพอ เท่านี้ก็จะทำให้อาการง่วงซึมลดน้อยลง

ฝากทิ้งท้ายไว้อีกนิด… นอกจากควบคุมอาหารแล้ว การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็ช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน พร้อมรับมือกับทุกกิจกรรมและบ๊ายบาย Food Coma ได้อย่างถาวร