Happy Talk
Life Spiration
Live And Learn
Eco-Living
Family In Love
Eat Am Are
Get Fit
Healthy Guide
Money Session
Live Offline
Happy Plus
Happy Life Club
BLA Product
![article image](/emagazinehappylife/Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Issue/Column/2020/BLA_Q4_MONEY_SESSION-02.jpg)
เทคนิควางแผนการเงิน ของคนต่างอาชีพ
มีคนบอกให้วางแผนการเงิน เพื่อจะได้มีสุขภาพทางการเงินที่ดี แต่พอลองศึกษาก็ไปเจอว่า มีคนแนะนำเทคนิคการวางแผนการเงินเยอะจนเลือกไม่ถูก ว่าอะไรเหมาะสมกับตัวเองกันแน่ วันนี้เราเลยจะขอแนะนำเทคนิคการวางแผนการเงิน ของคนแต่ละอาชีพ ใครทำอาชีพอะไรก็สามารถทดลองนำไปใช้ได้ทันที
แต่ก่อนอื่นเมื่อพูดถึงสุขภาพทางการเงินที่ดี ต้องรู้ก่อนว่ามีหลักสำคัญในการวางแผนการเงินอยู่ 3 ข้อ คือ ที่มาของรายได้ การเก็บออม และการลงทุน อย่างไรก็ตาม อาชีพที่แตกต่างกันจะวางแผนการเงินแบบเดียวกันย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะที่มาของรายได้มีความสัมพันธ์กับการวางแผน ดังนั้นแต่ละอาชีพจึงต้องรู้จักประยุกต์เทคนิคให้เหมาะกับตัวเองด้วย วันนี้เรามาดูกันครับว่า แต่ละอาชีพควรมีเทคนิควางแผนการเงินอย่างไรจึงจะทำให้มีสุขภาพทางการเงินที่ดี
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/1CF46E13F33547CBA9691E3B4FAA93DF..jpg)
รายได้ข้าราชการจัดว่ามั่นคงที่สุดหากเทียบกับอาชีพอื่น แต่ก็เป็นรายได้ที่มีอัตราการเติบโตต่ำที่สุดเช่นกัน เพราะเงินเดือนจะขึ้นเป็นขั้นบันได นอกจากจะขึ้นน้อยแล้ว ยังขึ้นช้าอีกด้วย ดังนั้นจึงขอแนะนำ “แผนเพิ่มรายได้”
แผนเพิ่มรายได้ 3 ขั้นตอน สำหรับข้าราชการ
ขั้นแรก เก็บเงินออมฉุกเฉินให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่ายประจำ 6 เดือน
ขั้นที่สอง เตรียมเงินเพื่อการเกษียนผ่านกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และลงทุนเพื่อคนข้างหลังด้วยการทำประกันชีวิตในแผนควบการลงทุนด้วย
ขั้นที่สาม หารายได้เพิ่มจากธุรกิจ โดยอาจเริ่มจากใช้ทักษะฝีมือรับงานฟรีแลนซ์ หรือเริ่มค้าขายเล็ก ๆ ก่อนก็ได้ แล้วนำรายได้ส่วนนี้ไปต่อยอดลงทุนในหุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/23191516163344B4A35A2E5908C8DAF0..jpg)
รายได้ของฟรีแลนซ์จัดว่ามีความเสี่ยงสูง ขึ้นอยู่กับคอนเนคชั่นและความเชี่ยวชาญ รายได้มาจากทักษะแรงงานต้องพัฒนาตัวเองเสมอ หากเก่งมากก็รายได้มาก หากไม่พัฒนาก็ยากที่จะมีงานเข้ามา ข้อสำคัญคือความรับผิดชอบและการสื่อสารกับผู้ว่าจ้างเพื่อให้มีงานต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอแนะนำ “แผนสร้างความมั่นคง”
แผนสร้างความมั่นคง 3 ขั้นตอน สำหรับฟรีแลนซ์
ขั้นแรก เก็บเงินออมฉุกเฉินให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่ายประจำ 6 เดือน
ขั้นที่สอง ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือควบการลงทุน หากมีสภาพคล่องควรศึกษาการลงทุนในกองทุนรวมไว้เป็นทางเลือก
ขั้นที่สาม แบ่งเงินเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใช้เงินเพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะเดิมที่ใช้หาเงิน ส่วนที่สองใช้เงินเพื่อเรียนรู้ช่องทางการทำการตลาดเพิ่มเติม เช่น การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย การสร้างเว็บไซต์ เพื่อเปลี่ยนฝีมือแรงงานให้กลายเป็นแบรนด์ ต่อยอดสู่การสร้างธุรกิจที่มีระบบ ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/174B4E3B4C7F4C3CACF44DE523C5012D..jpg)
รายได้ของพนักงานบริษัทเอกชนคล้ายกับของราชการ แม้อาจจะไม่มั่นคงเท่าราชการ แต่ก็แลกมากับการมีโบนัสรายปี และมีอัตราการเติบโตของเงินเดือนที่เร็วและสูงกว่า ดังนั้น จึงขอแนะนำ “แผนลงทุนความเสี่ยงต่ำ”
แผนลงทุนความเสี่ยงต่ำ 3 ขั้นตอน สำหรับพนักงานบริษัทเอกชน
ขั้นแรกคือ เงินออมฉุกเฉินให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่ายประจำ 6 เดือน
ขั้นที่สอง ออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและทำประกันบำนาญ
ขั้นที่สาม คือการลงทุนความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ SSF RMF และ กองทุนรวมทั่วไป ในส่วนของ SSF เป็นการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม ส่วน RMF เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ทั้งสองแบบเป็นการลงทุนที่ได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีด้วย ทั้งนี้การลงทุนทั้งสองแบบต่างก็มีความเสี่ยง แม้จะน้อยกว่าการเลือกซื้อหุ้น แต่ก็ควรทำการศึกษาก่อนลงทุน
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/18FD8FC427C14A65B1F84F7D28464A1B..jpg)
เจ้าของธุรกิจส่วนตัวมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด การขึ้นลงของวัตถุดิบ ต้นทุน หากแบรนด์ธุรกิจไม่แข็งแรงลูกค้าก็อาจเปลี่ยนไปซื้อเจ้าอื่น ส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินทั้งของส่วนตัวและส่วนธุรกิจ จึงขอแนะนำ “แผนกระจายการลงทุน”
แผนกระจายการลงทุน 3 ขั้นตอน สำหรับเจ้าของธุรกิจ
ขั้นแรก ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของธุรกิจแยกกับบัญชีส่วนตัว เก็บเงินทุนสำรองฉุกเฉินธุรกิจเท่ากับค่าใช้จ่ายธุรกิจ 6 เดือน และเก็บเงินออมส่วนตัวแยกต่างหากเท่ากับค่าใช้จ่ายส่วนตัว 6 เดือน
ขั้นที่สอง ตระเตรียมแผนธุรกิจทางเลือก เช่น สินค้าประเภทใหม่ หรือช่องทางการขายใหม่ หรืออาจจะเป็นธุรกิจประเภทใหม่
ขั้นที่สาม กระจายเงินทุนไปยังทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น กองทุน พันธบัตร หุ้น อสังหาริมทรัพย์ โดยอาจเริ่มต้นทีละประเภท ทยอยเติมเงินลงไปในทรัพย์สิน โดยมุ่งเน้นการถือครองระยะยาว เนื่องจากสภาพคล่องระยะสั้นมาจากธุรกิจอยู่แล้วนั่นเอง
แต่ก่อนอื่นเมื่อพูดถึงสุขภาพทางการเงินที่ดี ต้องรู้ก่อนว่ามีหลักสำคัญในการวางแผนการเงินอยู่ 3 ข้อ คือ ที่มาของรายได้ การเก็บออม และการลงทุน อย่างไรก็ตาม อาชีพที่แตกต่างกันจะวางแผนการเงินแบบเดียวกันย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะที่มาของรายได้มีความสัมพันธ์กับการวางแผน ดังนั้นแต่ละอาชีพจึงต้องรู้จักประยุกต์เทคนิคให้เหมาะกับตัวเองด้วย วันนี้เรามาดูกันครับว่า แต่ละอาชีพควรมีเทคนิควางแผนการเงินอย่างไรจึงจะทำให้มีสุขภาพทางการเงินที่ดี
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/1CF46E13F33547CBA9691E3B4FAA93DF..jpg)
รายได้ข้าราชการจัดว่ามั่นคงที่สุดหากเทียบกับอาชีพอื่น แต่ก็เป็นรายได้ที่มีอัตราการเติบโตต่ำที่สุดเช่นกัน เพราะเงินเดือนจะขึ้นเป็นขั้นบันได นอกจากจะขึ้นน้อยแล้ว ยังขึ้นช้าอีกด้วย ดังนั้นจึงขอแนะนำ “แผนเพิ่มรายได้”
แผนเพิ่มรายได้ 3 ขั้นตอน สำหรับข้าราชการ
ขั้นแรก เก็บเงินออมฉุกเฉินให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่ายประจำ 6 เดือน
ขั้นที่สอง เตรียมเงินเพื่อการเกษียนผ่านกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และลงทุนเพื่อคนข้างหลังด้วยการทำประกันชีวิตในแผนควบการลงทุนด้วย
ขั้นที่สาม หารายได้เพิ่มจากธุรกิจ โดยอาจเริ่มจากใช้ทักษะฝีมือรับงานฟรีแลนซ์ หรือเริ่มค้าขายเล็ก ๆ ก่อนก็ได้ แล้วนำรายได้ส่วนนี้ไปต่อยอดลงทุนในหุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/23191516163344B4A35A2E5908C8DAF0..jpg)
รายได้ของฟรีแลนซ์จัดว่ามีความเสี่ยงสูง ขึ้นอยู่กับคอนเนคชั่นและความเชี่ยวชาญ รายได้มาจากทักษะแรงงานต้องพัฒนาตัวเองเสมอ หากเก่งมากก็รายได้มาก หากไม่พัฒนาก็ยากที่จะมีงานเข้ามา ข้อสำคัญคือความรับผิดชอบและการสื่อสารกับผู้ว่าจ้างเพื่อให้มีงานต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอแนะนำ “แผนสร้างความมั่นคง”
แผนสร้างความมั่นคง 3 ขั้นตอน สำหรับฟรีแลนซ์
ขั้นแรก เก็บเงินออมฉุกเฉินให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่ายประจำ 6 เดือน
ขั้นที่สอง ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือควบการลงทุน หากมีสภาพคล่องควรศึกษาการลงทุนในกองทุนรวมไว้เป็นทางเลือก
ขั้นที่สาม แบ่งเงินเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใช้เงินเพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะเดิมที่ใช้หาเงิน ส่วนที่สองใช้เงินเพื่อเรียนรู้ช่องทางการทำการตลาดเพิ่มเติม เช่น การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย การสร้างเว็บไซต์ เพื่อเปลี่ยนฝีมือแรงงานให้กลายเป็นแบรนด์ ต่อยอดสู่การสร้างธุรกิจที่มีระบบ ทำให้มีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/174B4E3B4C7F4C3CACF44DE523C5012D..jpg)
รายได้ของพนักงานบริษัทเอกชนคล้ายกับของราชการ แม้อาจจะไม่มั่นคงเท่าราชการ แต่ก็แลกมากับการมีโบนัสรายปี และมีอัตราการเติบโตของเงินเดือนที่เร็วและสูงกว่า ดังนั้น จึงขอแนะนำ “แผนลงทุนความเสี่ยงต่ำ”
แผนลงทุนความเสี่ยงต่ำ 3 ขั้นตอน สำหรับพนักงานบริษัทเอกชน
ขั้นแรกคือ เงินออมฉุกเฉินให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่ายประจำ 6 เดือน
ขั้นที่สอง ออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและทำประกันบำนาญ
ขั้นที่สาม คือการลงทุนความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ SSF RMF และ กองทุนรวมทั่วไป ในส่วนของ SSF เป็นการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม ส่วน RMF เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ทั้งสองแบบเป็นการลงทุนที่ได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีด้วย ทั้งนี้การลงทุนทั้งสองแบบต่างก็มีความเสี่ยง แม้จะน้อยกว่าการเลือกซื้อหุ้น แต่ก็ควรทำการศึกษาก่อนลงทุน
![](https://www.bangkoklife.com/emagazinehappylife//Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Content/2020/18FD8FC427C14A65B1F84F7D28464A1B..jpg)
เจ้าของธุรกิจส่วนตัวมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด การขึ้นลงของวัตถุดิบ ต้นทุน หากแบรนด์ธุรกิจไม่แข็งแรงลูกค้าก็อาจเปลี่ยนไปซื้อเจ้าอื่น ส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินทั้งของส่วนตัวและส่วนธุรกิจ จึงขอแนะนำ “แผนกระจายการลงทุน”
แผนกระจายการลงทุน 3 ขั้นตอน สำหรับเจ้าของธุรกิจ
ขั้นแรก ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของธุรกิจแยกกับบัญชีส่วนตัว เก็บเงินทุนสำรองฉุกเฉินธุรกิจเท่ากับค่าใช้จ่ายธุรกิจ 6 เดือน และเก็บเงินออมส่วนตัวแยกต่างหากเท่ากับค่าใช้จ่ายส่วนตัว 6 เดือน
ขั้นที่สอง ตระเตรียมแผนธุรกิจทางเลือก เช่น สินค้าประเภทใหม่ หรือช่องทางการขายใหม่ หรืออาจจะเป็นธุรกิจประเภทใหม่
ขั้นที่สาม กระจายเงินทุนไปยังทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น กองทุน พันธบัตร หุ้น อสังหาริมทรัพย์ โดยอาจเริ่มต้นทีละประเภท ทยอยเติมเงินลงไปในทรัพย์สิน โดยมุ่งเน้นการถือครองระยะยาว เนื่องจากสภาพคล่องระยะสั้นมาจากธุรกิจอยู่แล้วนั่นเอง
แต่ละอาชีพมีรายได้ที่ไม่เหมือนกัน จึงส่งผลทำให้การวางแผนการเงินแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การวางแผนย่อมต้องมีการ “ปรับเปลี่ยนแผน” ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ จึงควรศึกษาแผนการเงินให้หลากหลาย เพื่อปรับแผนการเงินให้เหมาะสมอยู่เสมอ
CONTRIBUTOR
![](/emagazinehappylife/Picture/GetIssuePicture/?img=Uploads/Author/writer_140x140px-01.jpg)